Thursday, May 21, 2009

ไม่รับจดตั้งพรรคพันธมิตรข้อบังคับขัดกม.

กกต. ไม่รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคพันธมิตรเนื่องจากข้อบังคับพรรคขัดกับ พ.ร.บ. พรรคการเมือง “เทพไท”ปัดข่าว“ส.ส.หน้าใหม่” กดดันปรับครม. ชี้เป็นเรื่องปกติที่ส.ส.จะวิจารณ์รมต.ในที่ประชุมพรรค ย้ำพรรค ไม่แตกแยก “เหลิม” ตั้งฉายารัฐบาล “ขอทานขาดทุน” ลั่นอีก 30 วัน เพื่อไทยเตรียมขึ้นป้ายทั่วประเทศจะทำอะไร พร้อมเลือกตั้ง

(21พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไม่รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคพันธมิตร เนื่องจากข้อบังคับพรรคขัดกับ พ.ร.บ. พรรคการเมือง

“เทพไท”ปัดข่าว“ส.ส.หน้าใหม่”กดดันปรับครม.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสระบุว่า มีกลุ่มส.ส.หน้าใหม่เคลื่อนไหวกดดัน ให้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงการที่มีกระแสข่าวเช่นนี้ น่าจะเกิดขึ้นจากการพูดเล่นระหว่างหมู่สมาชิกพรรคด้วยกันเอง อาจทำให้ผู้สื่อข่าวเข้าใจผิด และหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาประติดประต่อกัน จนกลายเป็นกระแส เมื่อได้สอบถามและพูดคุยกับส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรค ทุกคนต่างตอบปฏิเสธว่า ไม่เป็นเรื่องจริง แต่อาจเป็นเพราะห้วงเวลาในขณะนี้ มีเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย จึงอาจทำให้กระแสข่าวดังกล่าวโยงมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วรัฐมนตรีของพรรคเพิ่งจะได้ทำงานเพียงไม่กี่เดือน ต้องให้เวลาในการปรับตัวประกอบกับตัวเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรี ส่วนใหญ่เป็นคนใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง อาจจะทำให้ขาดการประสานงานที่ดีระหว่างส.ส.กับฝ่ายบริหารได้

นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการโต้เถียงและวิจารณ์ตัวรัฐมนตรีอย่างรุนแรงใน ที่ประชุมส.ส.นั้น เป็นเรื่องปกติภายในพรรคเพราะธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคในการประชุมส.ส.ทุก ครั้ง จะมีวาระให้รัฐมนตรีชี้แจงและตอบปัญหาของส.ส.พรรคเป็นประจำอยู่แล้ว และการประชุมครั้งที่ผ่านมาก็เป็นการตั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการ บริหารจัดการงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ที่รัฐบาลจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ในระหว่างวันที่ 15 - 19 พ.ค.นี้ จึงจำเป็นต้องซักซ้อมและตั้งข้อสังเกตเรื่องงบประมาณให้รัฐมนตรีกระทรวง ต่างๆ ไปปรับปรุงและแก้ไขตามความเห็นของส.ส.ที่ได้ลงพื้นที่ และรับทราบปัญหามา

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าจะมองว่า การประชุม ส.ส.พรรคครั้งที่ผ่านมา เกิดข้อโต้เถียงอย่างรุนแรง ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมา การประชุมทุกครั้ง ก็เป็นลักษณะเช่นนี้อยู่เสมอเป็นการสะท้อนถึงวัฒนธรรมประชาธิปไตยภายในพรรค ที่ให้ส.ส.ทุกคนพูดได้โดยเท่าเทียมกัน และเพื่อนำปัญหาไปปรับปรุง

“ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความแตกแยกแน่นอน คำว่า “ ยามศึกเรารบ ยามสงบเราฟัดกันเอง” จะไม่เกิดขึ้นในพรรคนี้อย่างแน่นอน เพราะพรรคเคยได้รับบทเรียนที่เจ็บปวดในกรณีเรื่องกลุ่ม 10 มกราฯ เมื่อหลายปีก่อน และได้นำบทเรียนนี้มาปรับปรุงแก้ไขยึดเป็นแนวปฏิบัติเพื่อแก้ไข ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก และด้วยท่าทีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เปิดกว้างรับฟังความเห็นของทุกคน และให้ความสำคัญกับ ส.ส.อย่างเท่าเทียมกันจึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีเอกภาพในพรรคมากที่สุดยุค หนึ่ง” นายเทพไท กล่าว

“เพื่อไทย”ลงพื้นที่ทั่วประเทศ จัดปราศรัยเดือนมิ.ย.

เมื่อเวลา 15.00น. ในการบรรยายหัวข้อ “อุดมการณ์ วิสัยทัศน์ แนวทางการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่” ที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นผู้บรรยายนั้น ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่พรรคแต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมพงษ์ กล่าวในการบรรยายช่วงหนึ่งด้วยว่า ในเดือนมิ.ย.พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ และเป็นช่วงที่พรรคได้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ทำกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเตรียมความพร้อมเพราะวัน ข้างหน้ายังไม่แน่อาจเกิดอุบัติเหตุการเมืองได้เราจึงต้องเตรียมความพร้อม ถึงแม้จะมีหรือไม่มีการเลือกตั้งแต่ก็ต้องเตรียมตัว และในวันที่ 6-7-8 มิ.ย. พรรคจะเดินทางไปที่ จ.นครปฐม ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก โดยมีแกนนำหลักร.ต.อ.เฉลิมจะไปหัวหน้าทีมปราศรัย ทั้งนี้ขอมอบหมายให้ส.ส.แต่ละจังหวัดที่มีความพร้อมเรื่องสถานที่ที่จะให้ ทางพรรคลงไปทำกิจกรรมเปิดเวทีปราศรัย แจ้งความประสงค์มายังพรรค โดยเบื้องต้นกำหนดว่าจะต้องลงพื้นที่ไปในทุกภาคทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน รวมทั้งภาคใต้ ในภาคละ2จุด แบ่งเป็นพื้นที่ตอนบนและตอนล่างในแต่ละภาค

“สมชาย”กำชับส.ส.ลงพื้นที่ย้ำแผลรัฐบาล

จากนั้นเวลา 15.30 น. พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา ได้บรรยายในหัวข้อ “ประสบการณ์ทำงานในพื้นที่” โดยพ.ต.ท.สมชายกล่าวว่า แม้ว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยจะถูกทหารและตำรวจ คุกคามอย่างหนัก แต่ในการลงพื้นที่ขอให้ส.ส.นำนโยบายของพรรคไปทั้งนโยบายเก่าและนโยบายให้ม่ ไปบอกต่อประชาชน พร้อมทั้งบอกถึงความผิดพลาดการทำงานรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วย ทั้งนี้หากผู้แทนขยันลงพื้นที่พบปะประชาชนบางทีการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจไม่ ต้องใช้เงินเลยก็ได้
ปลุกใจ ลูกพรรค พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

พ.ต.ท.สมชาย กล่าวด้วยว่า พรรคต้องร่วมกันเป็นหนึ่ง และสนับสนุนส.ส.ลงพื้นที่ โดยของให้พวกเรานำสิ่งที่นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯ และคนอื่นที่พูดถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรัฐบาล พร้อมนำสิ่งที่พวกเราถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ นำไปขยายผลในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ สงสาร และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นทางเลือกในการเลือกครั้งต่อไป เพราะนโยบายเก่าของเราดีไม่เป็นรองใคร ถูกใจประชาชนเหมือนถูกน้ำมนต์รดศรีษะ และนโยบายใหม่ๆที่โดนใจประชาชนก็ต้องคิด เช่น เคยเสนอที่จะให้เงินค่ารีไทร์แก่ประชาชนทุก เพราะได้เสียภาษีมาตลอด เพื่อให้ประชาชนเลือกเรากลับมาเป็นรัฐบาลให้ได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จากนี้ไปขอพวกเราขยันลงพื้นที่พบปะประชาชน อย่าหวั่นไหว แม้ถูกกดดันหรือถูกทำร้าย เพื่อเอาชนะเลือกตั้งให้ได้

"เหลิม"ตั้งฉายารัฐบาล"ขอทานขาดทุน"

เมื่อเวลา 16.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังปิดสัมมนา พร้อมแกนนำและ ส.ส.ของพรรคโดยว่า พรรคเพื่อไทยได้ข้อสรุปว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารเศรษฐกิจผิดพลาด 6 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ทำผิดวินัยการคลัง 2.ขึ้นภาษีโดยไม่สร้างรายได้ ใช้วิธีเฮลิคอปเตอร์มันนี่ แจกเงินโดยคิดว่าประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยแต่สุดท้ายเหมือนกับการเอาเงินใส่ กระเป๋าซ้ายและล้วงจากกระเป๋าขวาจากการขึ้นภาษีสรรพสามิต 3.ดำเนินกิจกรรมโดยไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4.ไม่มีการสร้างงาน 5.แย่งสภาพคล่องจากเอกชน 6.สร้างความเสี่ยงให้คนไทยทั้งประเทศ สืบเนื่องจากการกู้เงินของรัฐบาล

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าส่วนตัวไม่เข้าใจว่ารัฐบาลต้องออก พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท เพราะถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนจริงน่าจะออกเป็น พ.ร.ก.น่าจะดีกว่ารัฐบาลชุดนี้หน้าเนื้อใจเสือทำการกู้อย่างเดียวรัฐบาล ทักษิณจ่ายเงินไอเอ็มเอฟ แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์สร้างหนี้ตลอดเวลา พรรคเพื่อไทยมีทีมเศรษฐกิจที่เก่งแต่ไม่ได้โชว์ และจากนี้ไปพรรคเพื่อไทยจะยึดหลัก3ข้อคือ1.ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอย่าง แท้จริงอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ต้องมีความเป็นธรรมในสังคม ถ้าความยุติธรรมไม่มีความสามัคคีจะไม่เกิด และ 3.ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ โดย 30 วันนับจากนี้ไปพรรคเพื่อไทยจะออกแคมเปญป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ เพื่อบอกว่าพรรคเพื่อไทยจะอะไรและไม่อะไรบ้าง และบอกว่าเรามีความพร้อม

"ถ้าหากมีโอกาสไล่รัฐบาลก็จะไล่ทั้งในและนอกสภาเพราะว่ารัฐบาลอยู่ต่อไป ก็สร้างแต่ความเสียหายต่อไปแม้แต่ขอทานยังต้องออกมาประท้วงเพราะได้รับผลกระ ทบในชีวิตประจำวัน ค่าข้าว ค่ารถ แพงขึ้น และคนจนลงไม่มีเงินบริจาคให้ จึงขอตั้งฉายารัฐบาลนี้ว่า “รัฐบาลขอทานขาดทุน” ขอให้ทุกคนมีความสุข แต่ขอให้รัฐบาลนี้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน "ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เลือกหน.”เพื่อไทย”เข้มข้น

ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา ได้บอกให้ ส.ส.และแกนนำของพรรคทุกคนเตรียมลงพื้นที่ให้มาก โดยให้นำผลงานของตัวเองที่ได้ทำไว้ไปโปรโมทให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ ซึ่งทั้งหมดนี้เน้นให้ส.ส.ต้องทำเพราะเป็นการเตรียมการเลือกตั้ง เนื่องจากเราประเมินว่าการเมืองขณะนี้ไม่มีอะไรแน่นอน อาจมีการเลือกตั้งได้ทุกเมื่อ เพราะรัฐบาลเจอตั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการทุจริต ซึ่งรัฐบาลอาจสะดุดได้ทุกเมื่อ ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น ตอนนี้นอกจาก มีนายสมชาย ที่เป็นแคนดิเดทคนสำคัญแล้ว ก็ยังมีนายสมศักดิ์ เกียริสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น ที่ยอมรับแล้วว่าพร้อมที่จะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ทั้งหมดคงต้องรอการประชุมพรรคในวันที่ 31 พ.ค.

No comments:

Post a Comment