Sunday, May 10, 2009

พายุฝนถล่มกรุง"ม็อบเสื้อแดง"กระเจิง

พายุฝนถล่มกรุง"ม็อบเสื้อแดง"กระเจิง ใช้โบสถ์และศาลวัด เป็นที่พึ่ง พายุลมกระหน่ำบ้านเรือน จ.นครสวรรค์ พังเสียหายนับสิบหลังคาเรือน ถล่มน่านหนักสุดรอบ76ปี บ้านเรือนพัง70หลัง สตูลคลื่นลมแรงซัดเรือสปีดโบทรับนักท่องเที่ยวแตก ปราจีนบุรีเห็ดโคนสะพรั่งชาวบ้านแห่เก็บขาย

ที่วัดไผ่เขียว เขตดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) ว่า ได้เกิดพายุฝนฟ้า คะนองลงในพื้นที่อย่างหนักก่อนที่จะมีการชุมนุมปราศรัยในเวลา 16.00 น.เย็นวันที่ 10 พ.ค. ส่งผลให้ผู้ที่ชุมนุมที่เดินทางมาก่อนเวลาต่างหาวิ่งหลฝนกันชุลมุน โดยผู้ชุมนุมบางส่วนต่างอาศัยหลบฝนภายในโบสถ์ และศาลาต่างๆ ของวัดไผ่เขียวกันจนแน่นวัด

อีกทั้งทำให้การราจรที่เข้าสู่พื้นที่การชุมนุมยิ่งกลายเป็นอัมพาตอย่าง หนัก ขณะที่บนเวทีปราศรัย หลังจากทีมงานผู้จัดงานขึ้นกล่าวทักทายผู้ชุมนุมได้ไม่ถึง 10 นาที ก็ต้องปิดเวทีลงชั่วคราว เพราะไม่สามารถต้านทานพายุฝนที่ชัดกระหน่ำอย่างหนักได้

ขณะเดียวกันพายุฝนดังกล่าวได้ตกปกคุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลอย่างหนักโดยเฉพาะ จ.นนทบุรี ทำให้ไฟฟ้าบางแห่งดับเพราะต้นไม้โค่นทับเสาหัก

พายุลมกระหน่ำจ.นครสวรรค์พังเสียหายนับสิบหลังคาเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า หลังจากที่กรมอุคตุนิยมวิทยาประกาศเตือน ประกาศเตือนว่าช่วงนี้หย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกกำลังปานกลางพัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น ในส่วนภาคเหนือและภาคกลางบางพื้นที่มีฝนฟ้า คะนองกระจาย และ ลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรี ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาในหลายอำเภอของจังหวัดนครสวรรค์ ได้เกิดพายุลูกเห็บและพายุฝนลม แรงในหลายพื้นที่มีต้นไม้ล้มทับถนนและบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนกว่าสิบ หลังคาเรือน อย่างที่ที่เห็นนี้เป็นความเสียหายของบ้าน ดาบตำรวจเชาว์ เหล่าอินทร์ อายุ 50 ปี เลขที่ 9/9 ม.16 ต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่ได้รับความเสียหายจากลมฝน ที่พัดกระหน่ำติดต่อนานหลายชั่วโมง ส่งผลให้กิ่งไม้ขนาดใหญ่หักทับสายไฟฟ้า ทำให้เสาไฟฟ้าหน้าบ้านหักโคนทับรั้วบ้านพังเสียหาย และได้ติดต่อไปยังหน่วยงานราชการ ก็ยังไม่มาดำเนินการให้ เนื่องจากติดช่วงวันหยุดราชการ

ด้านดาบตำรวจเชาว์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ครอบครัวต้องอยู่ในสภาพมี่มืดมิด เพราะว่ามีพายุฝน ลมแรงพัดผ่านทำ ให้ต้นมะขามเทศขนาดใหญ่ล้มทับเสาไฟฟ้าริมถนนบริเวณหน้าบ้านหักโค่นทำให้เสา ไปฟ้าหัก และตนก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาช่วยซ่อมแซม แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเหตุดังกล่าวอยู่นอกเหนือการควบคุม ล่าสุดผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดูบอกว่าจะรีบดำเนินการช่วยเหลือให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือ เพราะทุกหน่วยงานอ้างว่าวันหยุดราชการขณะที่บ้านเรือน ของชาวบ้านในย่านดังกล่าว ก็ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นเดียวกัน ส่วนมากพบหลังคาปลิวหายไป ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งซ่อมแซมหลังคาบ้านขอตนเองไปตามมีตามเกิด เพื่อให้แน่นหนาเกรงว่าช่วงค่ำวันนี้อาจเกิดพายุลมแรงกระหน่ำอีกครั้งได้

พายุฤดูร้อนถล่มน่านหนักสุดรอบ76ปี บ้านเรือนพัง70หลัง

เมื่อ เวลา 06.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 2552 นายธวัช เพชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด น่าน เข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่พัดกระหน่ำในพื้นที่อำเภอ นาน้อยในคืนวันที่ 9 พ.ค. และระลอกสองเมื่อเช้ามืดวันที่ 10 พ.ค. พบความเสียหายเป็นบริเวณกว้างใน 4 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลศรีษะเกษ มีเสาไฟฟ้าริมทางหลวงหักโค่น 3 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งอำเภอ นาน้อยและอำเภอนาหมื่นนานกว่า 4 ชั่วโมง

ตำบลสถาน ประกอบด้วย บ้านศาลา หมู่ 1 มีราษฎรได้รับความเสียหาย 19 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มี 2 หลัง ที่ได้รับความเสียหายหนัก หลังคาบ้านถูกกระแสลมพัดหายไปทั้งหลัง นอกจากกระแสลมได้พัดกระเบื้องมุงหลังคาศาลาในฌาปนสถานประจำหมู่บ้านและ โรงเรียนบ้านศาลาได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ลมพายุได้พัดเอาต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 10 คนโอบ อายุกว่า 100 ปี หักโค่นล้มทับกุฎิในวัดสถาน ต.สถาน จนเสียหายอย่างหนัก

พระครูอดุลย์ นันทพิศาล เจ้าอาวาสวัดสถาน เปิดเผยว่า กุฎิแห่งนี้มีอายุกว่า 10 ปี ภาย ในกุฎิเป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปไม้และเป็นวิหารจำลอง หลังจากถูกต้นโพธิ์ใหญ่ของหมู่บ้านซึ่งอยู่ ติดกับรั้ววัดหักโค่นลงมาทับ ทำให้กุฎิได้รับความเสียหายที่บริเวณหลังคา และวิหารจำลองภายใน กุฎิซึ่งมีพระไม้อายุนับ 100 ปี ก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยชาวบ้านสถานต้องทำพิธีขอขมาต้น โพธิ์ก่อน ที่จะประสานกำลังหน่วยงานนำรถเครนเข้าทำการตัดไม้ที่หักโค่นได้

นายเพิ่ม วิชัยต๊ะ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 ต.สถาน อ.นาน้อย จ.น่าน เล่าว่า ขณะนอนอยู่บนบ้าน ได้มีลมพายุพัดรุนแรงมาก ตนพยายามวิ่งไปปิดหน้าต่าง แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันปิดหน้าต่างได้หมดทุกบาน ลมพายุก็ได้พัดเอาหลังคาบ้านไปทั้งแถบ เลยต้องวิ่งหนีลงมาหลบอยู่ที่ชั้นล่างด้วยความกลัวเพราะไม่เคยเห็นลมพายุที่ รุนแรงมากขนาดนี้ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุ 76 ปี

ส่วนที่ตำบลเชียงของที่บ้านน้ำหิน หมู่ 5 ต.สถาน มีวัดน้ำหินและบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง ส่วนบ้านสัน หมู่ 6 บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายรวม 29 หลังคาเรือน และมีที่เสียหายหนักหลังคาปลิวหายไปทั้งหลัง จำนวน 6 หลังคาเรือน ส่วนในตำบลนาน้อยมีราษฏรได้รับความเดือดร้อนรวมทั้ง 4 ตำบล ประมาณ 50 กว่าหลังคาเรือน

วาตภัยที่เกิดขึ้นครั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ได้ เร่งสำรวจความเสียหายและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าช่วยเหลือ ราษฎรที่ประสบภัยแล้ว พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังพายุฤดูร้อนในช่วงนี้

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน แล้ว เร่งให้สำรวจความเสียหายรีบรายงานด่วน เพื่อที่จะได้อนุมัติเงินช่วยเหลือต่อไป

สตูลคลื่นลมแรงซัดเรือสปีดโบทรับนักท่องเที่ยวแตก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 52 พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช สว.สถานีตำรวจน้ำ 3 กก.9 บก.รน (ตำรวจน้ำสตูล) ได้รับแจ้งว่า เมื่อเย็นวานนี้ (9 พ.ค.52) มีเรือสปีดโบทชื่อฟาร่า 8 ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวจำนวน 60 คน ถูกคลื่นซัดเรือทำให้เรือแตก บริเวณหินตะโกนโบน ใกล้เกาะตะรุเตา ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล โดยเรือลำดังกล่าวได้รับนักท่องเที่ยวออกจากเกาะหลีเป๊ะ เพื่อวิ่งเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 9 ไมล์ทะเล อย่างไรก็ตามขณะที่เรือรั่วนั้น ผู้ควบคุมเรือลำดังกล่าวสามารถประคองเรือและพานักท่องเที่ยวกลับเข้าท่า เทียบเรือได้อย่างปลอดภัย

ด้านนายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อ.เมือง จ.สตูล กล่าวว่า จากการที่เกิดคลื่นลมแรงในทะเลอันดามันขณะนี้ ล่าสุดทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาจะออกประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะหลี เป๊ะ เกาะอาดัง เกาะไข่ เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้ เพราะเกรงว่านักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อวานนี้มีเรือทัวร์จำนวน 2 ลำ นำนักท่องเที่ยวจากเกาะหลีเป๊ะมาติดค้างที่เกาะตะรุเตา ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหมด 70 คนต้องค้างติดเกาะไปด้วย เนื่องจากไม่สามารถเดินทางได้เพราะมีคลื่นลมแรง

"ช่วงนี้เป็นหน้ามรสุมดังนั้นทางอุทยานฯ จึงจำเป็นต้องปิดเกาะดังกล่าว โดยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะที่เกาะตะรุเตา ซึ่งสามารถดูปะการังได้ทางทิศตะวันออกของเกาะ และที่เกาะลิดี เกาะเกียง จะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ยังสามารถไปเที่ยวที่เกาะสาหร่าย เพื่อชมวืถีชีวิต ของชาวบ้านในพื้นที่ได้ตามปกติ" นายณัฐพล กล่าว

ปราจีนบุรีเห็ดโคนสะพรั่งชาวบ้านแห่เก็บขาย

เมื่อเวลา 15.10 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายนิรันดร์ นะตาปา อายุ 39 ปีผู้ใหญ่บ้านเนินหินตั้ง หมู่ 10 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่าที่ป่าชุมในหมู่บ้านที่เพิ่งได้รับงบประมาณกว่า 80,000 บาท เพื่อนำมาบริหารจัดการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมฟื้นฟูรักษาป่าไม้สัตว์ป่าพื้นที่ ป่าชุมชนเนื้อที่กว่า 500 ไร่นั้น จากสภาพที่ฝนต้น เดือน 6 เริ่มตกในต้นฤดูประกอบสภาพอากาศอบอ้าวทำให้เห็ดระโงก และเห็ดโคน เริ่มออกดอกสะพรั่งแล้ว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งเป็นป่าชุมชนปากทางเข้าน้ำตกธารทิพย์ ติดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก

นางฉะอ้อน พระอารักษ์ อายุ47ปี เลข 49/2 หมู่ 10 ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เห็ดระโงกเพิ่งจะเริ่มออกรับเดือนหกที่ฝนฟ้า เริ่มตก มีชาวบ้านทั้งหมู่บ้านพากันเก็บหาเริ่มออกหาตั้งแต่ 05.00 น.ที่เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านหาเป็นอาหารจากป่าชุมชนเลี้ยงดูครอบครัว วิธีการโดยเดินหาตามพื้นดินใช้มือเก็บโดยนำไปเลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านหาขายเช่นกัน ราคากิโลกรัมละ 70 บาท

ด้านนายสาย จารัล อายุ 42ปี เลขที่1223หมู่ 10 เดินออกหาไปหาเห็ดระโงกแต่พบเห็ดโคน ได้มา 1 ตะกร้า การหาต้องรู้แหล่งที่มันออกทุกปี การพบทั้งเห็ดโคนและเห็ดระโงกจะทะลุดินขึ้นมา โดยเห็ดโคนที่หาได้นำมาประกอบอาหาร นอกจากนี้ชาวบ้านยังหาขายด้วยในราคากิโลกรัมละ 100 บาท / กก.

ขณะที่นายสำลี สาลีนวน อายุ55 ปี เลขที่ 104 หมู่ 12 ต.หนองแก้วอ.ประจันตคามจ.ปราจีรนบุรี กล่าวว่า “ ป่าชุมชนนี้เรียกป่าโคกเขาดิน ย่านนี้มีเห็ดระโงกเยอะยิ่งช่วงต่อไป ฝนชุก อากาศอบอ้าว ยิ่งเยอะชาวบ้านหากันเต็มป่า เห็ดระโงกที่พบมี 2พันธุ์คือสีเหลืองกับสีขาว โดยสีเหลืองดอกเล็กกว่า ระโงกสีเหลืองกินดีกว่ามีลักษณะเป็นเมือก หลักการดูเห็ดระโงกจะดูที่ดอกโผล่ออกมา เคยมีชาวบ้าน อ.กบินทร์บุรีเคยไปหาบนเขาแต่เป็นเห็ดคนละชนิดเสียชีวิตถึง 4 คน

"แต่เดิมชาวบ้านออกหาตอนไหนก็ได้ แต่หลังคนนิยมกินเห็ดและราคาดีตอนนี้จะไม่ทันคนหาขายที่จะพากันออกหาเห็ดออก หาตั้งแต่ 04.00 – 05.00 น.โดยมันจะอยู่ใต้ต้นพะยอม ต้นก่อ ที่ใบตกลงมาและเป็นเชื้อเห็ดตามใต้ต้นไม้ดังกล่าวนี้ ” นายสำลีกล่าวในที่สุด

อุตุฯเหนือเตือนภาคเหนือ -อีสาน ระวังพายุฤดูร้อน

นายประทวน พฤกษ์มหาชัยกุล หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาพะเยา กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยารายงานพยากรณ์สภาพอากาศของประเทศไทยในช่วงนี้ว่า อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลอันดามัน ซึ่งอาจทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และ มีแนวโน้ม
การเคลื่อนตัวทางเหนือค่อนไปทางตะวันออก เข้าใกล้ด้านตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งคลื่นลมในทะเลจะมีกำลังแรงขึ้น

สำหรับในประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจเกิดพายุฤดูร้อนได้ โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้า คะนอง ลมกระโชกแรง และ มีลูกเห็บตก ดังนั้นเกษตรกรจึงควรระวังอันตราย และ ป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ประกอบกับระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป

No comments:

Post a Comment