Tuesday, June 23, 2009

“ประสพสุข” ยอมรับรัฐบาลล็อบบี้ ส.ว.ผ่าน กม.กู้เงินเป็นเรื่องปกติ

ปธ.วุฒิสภาแจงสั่งเร่งปิดประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงินเหตุเวลาไม่พอ ยอมรับฝ่ายบริหารล็อบบี้ ส.ว.ผ่าน พ.ร.ก.เป็นเรื่องปกติ ไม่วิตกเสียงรับร่าง พ.ร.ก.เฉียดฉิว ไม่ส่งผลพิจารณาคว่ำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการสั่งปิดการประชุมวุฒิสภาเมื่อคืนวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจว่า การสั่งปิดการประชุมไปก่อนเพราะหมดเวลา และตามที่มีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญให้การประชุมต้องปิดก่อนเวลา 24.00 น. จะเกินเวลาไปแม้แต่หนึ่งนาทีคงไม่ได้ ดังนั้น เมื่อลงมติ พ.ร.ก.กู้เงิน เป็นเวลา 23.00 น.เศษไปแล้ว การจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงินต่อคงเป็นไปไม่ได้

“เมื่อวานที่ปิดทุกคนตกใจ ท่านนายกฯ ก็ตกใจหมด คือต้องคำนวณดูเวลาทำไม่ทันแล้วมันต้องปิด” นายประสพสุข กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐมนตรีโทรศัพท์มาล็อบบี้ ส.ว.ให้ลงมติสนับสนุนร่าง พ.ร.ก. นายประสพสุขกล่าวว่า อย่าเรียกว่าล็อบบี้เลย เรียกว่าเป็นการขอความร่วมมือโดยคนรู้จักมักคุ้นที่อาจจะมีการทำอย่างนั้นบ้าง โดยคงเป็นการชี้แจงทำความเข้าใจว่าจำเป็นอย่างไรจึงต้องผ่าน อย่าบอกว่าเป็นการล็อบบี้เลย

เมื่อถามต่อว่ามีกระแสข่าว ส.ว.บางส่วนไม่ค่อยพอใจการทำงานของรัฐบาล นายประสพสุขกล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นการพูดกันด้วยเหตุด้วยผล อย่าบอกว่าเป็นความไม่พอใจอะไรเลยคงไม่มี เมื่อถามต่อว่าก่อนหน้าที่ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาดูเหมือนการอภิปรายของ ส.ว.จะรุนแรงแต่พอนายกรัฐมนตรีมาแล้วผลกลับเปลี่ยนไป ประธานวุฒิสภากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชี้แจงดีเป็นหลักเป็นเกณฑ์เป็นขั้นเป็นตอน ที่สำคัญคือการสัญญาว่าจะตรวจสอบการใช้เงิน ซึ่ง ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นห่วงเรื่องอะไร นอกจากกลัวว่าจะมีการทุจริต หากมีคำรับรองว่าจะตรวจสอบไม่ยอมให้มีการทุจริต อาจเป็นน้ำหนักทำให้คนที่ลังเลตัดสินใจให้การสนับสนุน

เมื่อถามต่อว่าผลการลงมติ พ.ร.ก.มีคะแนนเสียงเห็นด้วยมากกว่าเล็กน้อยจะมีผลต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯ หรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า คงไม่เกี่ยว เรื่อง พ.ร.บ.ก็ต้องพูดกันด้วยเหตุและผล อีกทั้ง พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.ต่างกันการพิจารณา พ.ร.ก.มีสองอย่าง คือ รับ และไม่รับ แต่ร่าง พ.ร.บ.เมื่อรับหลักการแล้วสามารถตั้งกรรมาธิการตรวจสอบแปรญัตติได้อีก