Wednesday, May 20, 2009

"กก.สลายม็อบ” ติดใจ ผู้นำเหล่าทัพ “เบี้ยวแจง"

“กก.สลายม็อบ” ติดใจ ผู้นำเหล่าทัพ “เบี้ยวแจง” แตกอนุฯ 7 ชุด ให้ส.ว.เป็นประธานทุกคณะ ล่าความจริงทุกที่ทั้งกทม.-พัทยา โฆษกทบ.ป้อง ผบ.ทบ.ไม่หนีแแต่ส่งผู้ปฏิบัติจริงแจงแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในช่วงบ่าย คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมือง ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน ได้ประชุมเพื่อตั้งอนุกรรมการฯ ขึ้นมา 7 ชุด โดยมี ส.ว.เป็นประธาน และอนุกรรมการประกอบด้วยตัวแทนจากพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมทั้งคนนอกชุดละไม่เกิน 15 คน โดยให้ประธานเป็นผู้สรรหา ทั้งนี้อนุกรรมการฯ ทั้ง 7 ชุดประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วย พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี เป็นประธาน 2.คณะอนุฯรวบรวมเหตุการณ์พัทยา และภูมิภาค มีนายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ส.ว.สรรหา เป็นประธาน 3.คณะอนุฯรวบรวมเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทยและศาลรัฐธรรมนูญ มีนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ เป็นประธาน

4.คณะอนุฯรวบรวมเหตุการณ์ที่สามเหลี่ยมดินแดง ผู้เสียชีวิต 2 ศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยา กรณีการเสียชีวิตของพลหทารอภินพ เครือสุข กรณีรถแก๊ส และรถเมล์ มีพล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน 5.อนุฯรวบรวมเหตุการณ์นางเลิ้ง เพชรบุรี ซ.5-ซ.7 ยมราช อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และกรณีเตรียมเผาธนาคารกรุงเทพ และอื่นๆ มีนายสุวิทย์ เมฆเสรีกุล ส.ว.สมุทรสาคร เป็นประธาน 6.คณะอนุฯเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น มีนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี เป็นประธาน และ 7.คณะอนุฯสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และข้อเสนอแนะ มีนายประวัติ ทองสมบูรณ์ ส.ว.มหาสารคาม เป็นประธาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประธานอนุฯ ที่ได้รับแต่งตั้งในวันนี้ไปคัดเลือกคณะอนุฯครบเรียบร้อยแล้ว จะนำรายชื่อมาให้ประธานลงนามในวันที่ 21 พ.ค.นี้ จากนั้นจึงจะเริ่มลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูล และข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ต่างๆ ก่อนจะนำมาเสนอในที่ประชุมใหญ่นัดแรกในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 10.00 น. และจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 11 มิ.ย. และ 18 มิ.ย. ซึ่งจะครบรอบอายุการทำงาน 45 วัน ของคณะกรรมการฯ จากนั้นจะมีการสรุปข้อเท็จจริงในที่ประชุมใหญ่ก่อนจะนำเสนอต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาต่อไป อย่างไรก็ตามหากคณะกรรมการไม่สามารถที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงได้ทันตามกรอบ เวลาดังกล่าว ก็อาจเสนอขอขยายระยะเวลาในการทำงานออกไปได้

รายงานข่าวจากคณะกรรมการฯ แจ้งว่า จากการเชิญตัวแทนผู้เกี่ยวข้องส่วนต่างๆ เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ ตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่ไม่พอใจที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บัญชาการทหารระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. และผบ.ตร ซึ่งไม่ยอมมาให้ข้อมูลด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าไม่สามารถมาให้ข้อมูลได้เนื่องจากมีภารกิจมาก หากต้องการข้อมูลใดก็ให้ทางคณะกรรมการฯ ทำหนังสือขอไปยังหน่วยงานนั้นๆ โดยจะขอส่งคำชี้แจงที่เป็นเอกสารมาให้ ซึ่งเกรงว่าจะทำให้ไม่ทราบข้อมูลการสั่งการที่เป็นจริงทั้งหมด นอกจากนี้คณะกรรมการฯ มีความสนใจในประเด็นของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ที่ถูกควบคุมตัวไปโดยไม่มีหมายจับและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งได้รับข้อมูลว่าจากแพทย์ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวภรรยาของนายอริสมันต์ แท้งบุตรจริง

โฆษกทบ.ป้อง ผบ.ทบ.ไม่หนีแแต่ส่งผู้ปฏิบัติจริงแจงแทน

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่าทหารแฝงตัวเป็นคนเสื้อแดงเทียม เพื่อสร้างสถานการณ์เหตุวุ่นว่ายช่วง 13 -14 เมษายนที่ผ่านมาว่า ทหารมีหน้าที่ประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้รุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำทุกวิธีให้ทุกอย่างสงบโดยเร็ว และไม่ให้ประชาชนบาดเจ็บหรือหากบาดเจ็บก็ให้น้อยที่สุด นี่คือนโยบายที่ผู้บังคบบัญชามอบ ทั้งนี้ ไม่มีการปลอมปนของทหารไปสร้างความวุ่นวายแน่นอน

“ที่ผ่านมากองทัพชี้แจงมาตลอด สื่อมวลชนก็อยู่ในพื้นที่การตรวจสอบ กองทัพพร้อมให้การตรวจสอบ ส่วนการที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้ไปชี้แจงเหตุการณ์ด้วยตนเองนั้น เพราะท่านอยู่ในห้องประชุมรับฟังนโยบาย และมอบนโยบายให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาไปปฏิบัติ ดังนั้น การที่จะให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการดีที่สุด ก็ต้องให้ผู้แทนกองทัพที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ไปชี้แจงแทน เพื่อให้ชี้แจงคณะกรรมการในทุกเรื่อง เพราะเขาเป็นผู้รับนโยบายและเป็นผู้ปฏิบัติ หากผู้บัญชาการทหารบกไปเอง คงไม่สามารถชี้แจงในรายละเอียดการปฏิบัติได้ เพราะอยู่ในห้องประชุมตลอด” โฆษกกองทัพบก กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุว่า พล.อ.อนุพงษ์ ไม่จริงใจในการให้ข้อเท็จจริง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องไม่จริงใจในการแก้ปัญหา แต่ พล.อ.อนุพงษ์ คำนึงถึงการให้ข้อมูล เพราะหากผู้บัญชาการทหารบกไปเอง ท่านคงให้ข้อมูลในระดับพื้นที่ไม่ได้มาก เพราะท่านเป็นระดับนโยบายสั่งการให้ผู้ปฏิบัติไปดำเนินการ ทั้งนี้ ผู้แทนที่ไปชี้แจงเป็นระดับรองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งรับอำนาจสั่งการมาจากแม่ทัพภาคที่ 1 ในการสั่งผู้บังคับกองพลและผู้บังคับกองพันในหน่วยปฏิบัติ ดังนั้น ท่านเป็นผู้ที่ทราบข้อมูลการปฏิบัติอย่างดี

เมื่อถามว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ระบุว่า เหตุรุนแรงที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี เป็นฝีมือของกลุ่มคนเสื้อสีนำเงินของนายเนวิน ชิดชอบ ร่วมมือกับทหารบางส่วนสร้างความรุนแรง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมืองของพรรคการเมืองคิดและเป็นมุมมองของแต่ละคน แต่กองทัพมีหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงและทำตามกรอบนโยบายที่ได้รับให้เกิดผล โดยต้องไม่ให้มีผู้บาดเจ็บ การที่ท่านคิดเช่นนั้นเป็นเรื่องมุมมองแต่ละคน

No comments:

Post a Comment