Monday, May 11, 2009

เสนาะแนะก่อนเลือกตั้งเคลียร์ขัดแย้งก่อน

"เสนาะ"กล่าวในงานเลี้ยงสังสรรค์สามัคคีกอล์ฟปาร์ตี้ 111+37= เพื่อไทย ยันในฐานะกก.สมานฉันท์จะไม่ซ้ายหันขวาหัน จะทำให้ดีที่สุด ชี้ต้องเอาความจริงมาพูดกันถ้าไม่ต้องการให้ไทยเป็นเหมือนเขมรที่แยกเป็น 3 ฝ่ายในอดีต เตือนก่อนเลือกตั้ง ต้องเคลียร์ความขัดแย้งในประเทศก่อนไม่เช่นนั้นไทยฆ่าไทยแน่นอน

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 11 พ.ค. นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวในงานเลี้ยงสังสรรค์สามัคคีกอล์ฟปาร์ตี้ 111+37= เพื่อไทย ตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่ตนเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ ตนยืนยันว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ทุกคน ไม่มีซ้าย ไม่มีขวา แต่จะทำให้ดีที่สุด ประเด็นปัญหาของประเทศทุกวันนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดในเรื่องความแตกแยกที่ ร้าวลึกจนน่าเป็นห่วงว่าจะหมิ่นเหม่ให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ จนสยามเมืองยิ้ม จะกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ และที่สำคัญคือคนไม่พูดความจริง

"ดังนั้น การแก้ปัญหาคือเอาความจริงมาพูดกัน ถ้ายังไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นเหมือนกับเขมร ที่แตกออกเป็น 3 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งยึดอำนาจ ขับไล่พระเจ้าแผ่นดิน และล้มสถาบันของตัวเอง ตั้งตนเป็นประธานาธิบดี อีกฝ่าย รักษาอำนาจ และพวกสุดท้าย คือเขมรแดง ซึ่งต่อสู้กันเองมาโดยตลอด และผลที่สุด ฝ่ายเขมรแดงไม่มีอำนาจล้มรัฐบาลหลังปฏิวัติได้ รัฐบาลที่เข้ามาก็คอรัปชั่น โกงกระทั่งเงินเดือนข้าราชการ ทำให้บ้านเมืองฉิบหายวายป่วง ทหารตำรวจออกจี้ปล้นประชาชน ในที่สุด ก็ต้องดึงเวียดนามเข้ามาฆ่าคนเขมรด้วยกันเอง ดังนั้น อย่าให้เมืองไทยเป็นเช่นนั้นเลย" นายเสนาะกล่าว


นายเสนาะกล่าว ต่อว่า ที่ตนมาพูดวันนี้ เพื่อต้องการเปิดหูเปิดตา เปิดจิตสำนึกของทุกฝ่าย ขณะเดียวกัน ตนก็จะไปบอกกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ทำไมในเมื่อประชาชน เลือกนายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงไม่ให้ทำงาน เอาเสื้อเหลืองออกมา นึกอยากจะด่าใครก็ด่า มาตะโกนให้เอาประเทศไทยคืนมา อยากย้อนถามกลับว่า ไม่มีใครเอาประเทศใครไป ก็มีแต่พวกมึงนั่นแหละ และตนจะไปพูดกับพรรคประชาธิปัตย์ตรงๆ ว่าจะเอาอย่างไร เหตุการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เป็นรัฐบาล เป็นผู้นำประเทศ แต่ไปเยี่ยมเยียนประชาชนไม่ได้ แล้วจะเป็นได้ไง

"อยากเตือนว่าที่ออกมาพูดว่า เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะยุบสภานั้น ขอบอกไว้ก่อนว่า เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้ว ต้องเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของประชาชนในประเทศให้ได้ก่อน หากประกาศเลือกตั้งทันที ทายได้เลยว่า ต้องฆ่ากันตายแน่นอน ถ้าไม่เชื่อคำพูดผมก็ให้คอยดู เพราะผมพูดไม่เคยผิด" นายเสนาะเตือน

สมเจตน์ชี้รธน.ม.237เหมาะสมเป็นความรับผิดชอบทางสังคม

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ถึงข้อเรียกร้องการแก้รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ว่า รัฐธรรมนูญแก้ไขได้ หากใช้ไประยะหนึ่งแล้วมองว่า บางส่วนเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย ทำให้ระบบการบริหารประเทศไม่เดินไปข้างหน้ามีอุปสรรค แต่ต้องแก้ไขเพื่อส่วนร่วม เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เป็นการแก้ไขเพื่อลบล้างความผิด หรือปกป้องความผิดให้แก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ผ่านการประชามติของประชาชน ดังนั้น แก้ไขเรื่องใดต้องบอกประชาชนว่า มาตราใดแก้ไข แก้อะไรมีเหตุผลอย่างไร

"รัฐธรรมนูญ 2550 ร่างขึ้นมา โดยเอาจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญ 2540 มาปรับปรุงแก้ไขใหม่ ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญอื่นไม่ค่อยมีปัญหา แต่มี 2 เรื่อง คือ มาตรา 237 และที่มาของ ส.ว. ซึ่งมองว่าไม่เห็นด้วยหากแก้ไข อย่างมาตรา 237 หากพูดแค่ว่ากรรมการบริหารพรรคคนอื่นไม่ได้ทำความผิด ก็ไม่สมควรลงโทษ ทำไมไม่ลงโทษคนผิด พูดแค่นี้ก็เห็นว่าจริง ใครทำผิดควรรับโทษ คนอื่นเป็นคนดีเยอะๆไม่ควรถูกลงโทษ แต่ไม่ใช่ มีกฎหมายหลายตัวที่ลงโทษทางสังคมต่อผู้ไม่กระทำความผิด แต่เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะบอกแล้วว่า คนเลือกพรรค พรรคเลือกคน ดังนั้น พรรคมีหน้าที่ดูแลคนของคุณเอาไว้ ไม่ให้ไปกระทำความผิดกฎหมาย เมื่อทำความผิดคุณต้องรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นความรับผิดชอบทางสังคม และความจริงพรรคมีส่วนรู้เห็นทั้งสิ้น ในการกระทำของลูกพรรคตัวเอง"พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ปัญหาซื้อเสียงเป็นปัญหาร้ายแรงที่ขัดขวางการพัฒนาของระบอบประชาธิปไตย ถามว่าการซื้อเสียงทำไมยุ่ง ก็ซื้อเสียงใช้เงิน เมื่อใช้เงินก็ต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไปมีอำนาจในการใช้งบประมาณ เพื่อหาเงินไปใช้ซื้อเสียงการเลือกตั้งรอบใหม่ ก็เป็นวัฏจักรที่เลวร้าย การซื้อเสียงเป็นขบวนการที่เลวร้ายและร้ายแรงที่สุดต่อการขัดขวางการพัฒนา ประชาธิปไตย ทำให้เขากำหนดในรัฐธรรมนูญว่ากรรมการบริหารพรรคต้องรับผิด ความจริงการลงโทษเว้นวรรคการเมือง 5 ปีน้อยไปด้วยซ้ำ คนทำความผิดมันต้องประหารชีวิตทางการเมือง ต้องตัดพวกนี้ออกจากเวทีการเมือง ความจริงปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่เป็นปัญหาที่นักการเมือง

พท.รุกยื่นญัตติถามมาตรการขึ้นภาษีสัปดาห์นี้

นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะขึ้นภาษีสรรพสามิต ว่า ถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แม้ว่านายกฯจะยืนยันว่าการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันไม่กระทบต่อประชาชน เพราะจะให้กระทรวงพลังงานใช้กองทุนพลังงาน เข้าแทรกแซงด้วยการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แต่ดูเหมือนกระทรวงพลังงาน ก็ไม่กล้ายืนยันว่า ราคาน้ำมันจะไม่ปรับขึ้น โดยรมว.พลังงานระบุว่า คงจะดูแลได้ในระยะสั้นประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้น คงต้องปล่อยให้น้ำมันลอยตัว

"ทำให้คำยืนยันของนายกฯ เลื่อนลอยดูจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แล้วจะไม่ขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน เชื่อว่า ในท้ายที่สุด หากต้องขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน ก็จะโทษว่า เป็นเพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้น"

เขาบอกว่า ส่วนตัวอยากเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการขึ้นภาษีสรรพสามิตในการประชุมครม.ที่ จะถึงนี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนตระหนกตกใจ ขาดความเชื่อมั่น และชะลอการใช้จ่ายอีก อยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ในช่วงที่มีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน คาดว่า จะเป็นประมาณไตรมาสแรกของปี 2553

ทั้งนี้ หลังจากพรรคเพื่อไทย ได้ประชุมหารือกันแล้ว ตกลงว่า จะยื่นเป็นญัตติด่วนถามรัฐบาลถึงการมาตรการขึ้นภาษีต่างๆ ภายในสัปดาห์นี้

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะออกพ.ร.ก.กู้เงินนั้น พรรคเพื่อไทยกำลังจับตาดูอยู่ หากมีเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเข้าชื่อ 1 ใน 5 ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ปชป.นัดส.ส.ถกเช้า12พ.ค.รับมือพรก.กู้เงินเชื่อถูกถล่ม

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการประชุม ส.ส.ของพรรค ในวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ว่า จะเป็นการหารือเรื่องกรอบการประชุมร่วมสองสภาในเวลา 10.00 น. ซึ่งจะมีการพิจารณากรอบกฎหมาย 5-6 ฉบับเท่านั้น ไม่ได้เป็นการหารือเรื่องการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือสถานการณ์ทางการเมืองแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จะมีการเตรียมการรับมือการอภิปรายกฎหมายว่าด้วยการขอกู้เงินจำนวน 4 แสนล้านบาท ในวันเดียวกัน เนื่องจากเชื่อว่าฝ่ายค้านจะโจมตีเรื่องนี้อย่างแน่นอน ทั้งที่การกู้เงินเป็นมาตรการที่ประเทศต่างๆทั่วโลกใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สำคัญรัฐบาลของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็กู้เงินอยู่ทุกปี

No comments:

Post a Comment