Sunday, May 17, 2009

17ปีพ.ค.35เยาวชนเสนอสภาหวังปฏิรูปการเมือง-ปชต.

คมชัดลึก :“ชวรัตน์” ส่อปรับ “ชาติชาย” พ้นเก้าอี้ รมช.เกษตฯ ลั่นไม่เคยนับเป็นลูกพรรค เหตุไม่เคยเข้าร่วมประชุม พร้อมจับเข่าคุย “ สรอรรถ ” สัปดาห์หน้าระบุเคลียร์ทุกประเด็น 'จำลอง'ปัดพรรค พ.ป.ป.ไม่เกี่ยว พธม.

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคภูมิใจไทยที่มีกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย มาเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์แทน นายชาติชาย พุคยาภรณ์ ว่า เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ในพรรคจะหารือกัน เพราะนายชาติชาย เป็นรัฐมนตรีที่มาโดยโควตาในกลุ่มของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย โดยจะนัดหารือกับนายสรอรรถ ในสัปดาห์หน้า เพื่อเคลียร์เรื่องการทำงานของนายชาติชาย ทุกประเด็น เบื้องต้นคงต้องฟังเหตุผลของนายสรอรรถก่อน ว่าจะเอาอย่างไร

“ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผมไม่เคยนับนายชาติชาย เป็นลูกพรรค เพราะไม่เคยมาร่วมประชุมพรรคเลย ” นายชวรัตน์ ระบุ

เมื่อถามว่า หากมีการปรับนายชาติชาย ออกจากตำแหน่งจริง โควตารมช.เกษตรฯจะยังเป็นของกลุ่มนายสรอรรถเหมือนเดิมหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ต้องรอดูว่า นายสรอรรถ จะเสนอชื่อใครมา จากนั้นจะนำมาพิจารณาอีกครั้ง

เมื่อถามว่า การปรับนายชาติชาย ออกจากตำแหน่ง จะทำให้เกิดปัญหาภายในพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่มีปัญหา ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน ทุกอย่างคุยกันได้

ภท.หนุน“ศุภชัย โพธิ์สุ”นั่งเก้าอี้รมช.เกษตรฯ

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าว ที่จะมีการเสนอ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย กลุ่มเพื่อนเนวิน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทน นายชาติชาย พุคยาภรณ์ ในโควต้ากลุ่มของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ว่า นายศุภชัย นั้นถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยคน หนึ่ง ซึ่งเป็นรัฐมนตรีได้อยู่แล้ว ท่าจะมีการปรับเปลี่ยนกันจริง ก็เชื่อว่าพรรคจะได้ประโยชน์ เพราะนายศุภชัย ก็เป็นส.ส.อยู่จึงสามารถที่จะเข้าถึงประชาชนได้โดยง่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการปรับเปลี่ยนนายชาติชายออกจริง แล้วเอานายศุภชัยเข้ามานั้น จะทำให้ในพรรคมีปัญหาในระดับแกนนำหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าให้ตนพูดไปตามหลักการ ถ้ารัฐมนตรีคนไหนทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ทางผู้ใหญ่ของพรรคก็ต้องสรรหาคนที่มีความเหมาะสม ที่ทำงานแบบประชาชนได้ประโยชน์และพรรคก็ได้ประโยชน์ วันนี้พรรคของเราหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นวันนี้ในพรรคภูมิใจไทย ไม่มีส.ส.กลุ่มใด รัฐมนตรีโควต้าของใคร

17ปีพ.ค.35เยาวชนเสนอสภาหวังปฏิรูปการเมือง-ปชต.

ที่มหาวิทวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ได้มีการจัดเสวนา “ เวทีเยาวชน 17 ปี 17 พฤษภา กับอนาคตประชาธิปไตยไทย ” จัดโดยมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ร่วมกับคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 โดยมีเยาวชนเข้าร่วมเสาวนากว่า 60 คน
นายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม กล่าวเปิดเวทีเสวนาว่า จากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่ผ่านไปแล้ว 17 ปี ซึ่งหากเปรียบเทียบเป็นเด็กก็โตอายุ 17 ปีแล้ว เหมือนกับ น.ส.นวลมนัส นนทศิริ ทายาทวีรชนพฤษภาทมิฬ ซึ่งในปีหน้าก็มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นครั้งแรก โดยเยาวชนในวัยนี้ควรร่วมกันคิดฝันอยากให้ประชาธิปไตยของประเทศไทยในวันข้าง หน้าน่าจะเป็นอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก

นายโคทม กล่าวว่า ในขณะนี้มีตัวละครอยู่ 2 ข้าง อย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับนายสุริยะใส กตะศิลา ที่ทั้งคู่กำลังเรียกร้องประชาธิปไตย แต่อยู่กันคนละข้าง วันนี้ขึ้นอยู่กับเยาวชนที่มาร่วมกันหาคำตอบให้กับประชาธิปไตยและร่วมวาง อนาคตให้กับคนไทย ไม่ให้กลับไปสู่ความรุนแรงอีกครั้ง

ทั้งนี้ ภายในงาน ได้จัดกิจกรรมสภา (กาแฟ) เยาวชน 17 ปี 17 พฤษภา เพื่อการพัฒนาสังคมประชาธิปไตย ในโอกาสวันรำลึกวันพฤษภาประชาธรรม โดยเยาวชนได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับปัญหาสังคม การเมืองประชาธิปไตย การละเมิดสิทธิมนุษยชน การใช้ความรุนแรง โดยได้สรุปประเด็นทั้งสิ้น 25 หัวข้อ

อาทิ การพัฒนาความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในเรื่องประชาธิปไตยอย่างถูกต้องและ ทั่วถึง การก่อให้เกิดความเท่าเทียมทางกฎหมาย การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยต้องมีระบบนิติรัฐ นิติธรรม การพัฒนาจริยธรรมทางการเมืองของคนทุกภาคส่วน การพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชน สร้างกลไกให้เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ โดยไม่ปล่อยให้เป็นเพียงพิธีกรรม หรือเป็นการสร้างผลงานให้กับนักการเมืองเพียงเท่านั้น

สื่อมวลชนต้องไม่บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ยึดถือจรรยาบรรณ ถูกต้องเป็นกลาง ไม่ยินยอมให้เป็นเครื่องมือปลุกระดมทางการเมือง การละเว้นวัฒนธรรมอำนาจนิยมและระบบอุปถัมภ์ การชำระประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง และบรรจุเข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอนอย่างเปิดกว้าง การให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่ากับเป็นการปฏิรูปทางการเมืองหรือ ไม่ การพัฒนาการศึกษาของพลเมืองเพื่อสร้างจิตสาธารณะเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ทางการเมือง และการไม่ให้เกิดการฮั้วกันทางการเมือง โดยเฉพาะในคณะกรรมการสมานฉันท์ แห่งชาติ เป็นต้น

ทั้งนี้ ตัวแทนเยาวชนได้มอบข้อเสนอดังกล่าวให้กับนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปมอบกับประธานสภาฯ ต่อไป

หลังจากนั้น นายสามารถ ได้กล่าวปิดการเสวนาว่า ข้อเสนอนี้เป็นประโยชน์อย่างนิ่งต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในจุดที่สังคมอยาก เห็นร่วมกัน ซึ่งเขาอยากเห็นเครือข่ายเยาวชนที่เชื่อมกันทั่วประเทศ ทางสภาผู้แทนราษฎรก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ในการจัดตั้งสภาเยาวชนให้เกิดขึ้นได้สำเร็จ

“ชัย"วอนผู้บริหารท้องถิ่นเป็นผู้นำปชช.กลับเข้าสู่ปชต.

ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนา เรื่อง “การเสริมสร้าง และเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ปกครองท้องที่ ” แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ผู้นำปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำทางศาสนา ในจังหวัดอุบลราชธานี ระนอง นครนายก และยะลา จำนวนทั้งสิ้น 702 คน เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องจากวันที่ 16 พฤษภาคมทั้งนี้โครงการดังกล่าวรัฐสภาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสถาบันพระปกเกล้าจัดขึ้น โดยใช้ห้องประชุมรัฐสภาเป็นสถานที่จัดงาน

นายชัย กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทรัฐสภาในการสนับสนุนการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ปกครองท้องที่ตามเจตนารมย์ของรัฐสภา ” ว่า ปัญหาของบ้านเมืองที่ผ่านมาทุกคนรู้ว่า พวกเราจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาของประเทศชาติอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชน ที่ผู้บริหารอปท. และผู้นำปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะต้องนำประชาชนกลับสู่ครรลองตามระบอบ ประชาธิปไตย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยถูกทำร้ายมามากพอแล้ว จึงสมควรที่ทุกฝ่ายจะยุติการทำร้ายประเทศไทย ที่ประชาชนคนไทยอยู่ภายใต้สีเดียวกันคือสีธงไตรรงค์ของชาติ คือสีขาวแดงและน้ำเงิน

นายชัย กล่าวว่า รัฐสภาแห่งนี้มีพื้นที่เพียง 20 ไร่ จึงมีความแออัด และคับแคบมาก ไม่เหมือนสภาประเทศอื่นที่โอ่โถงกว้างขวาง และรองรับประชาชนได้เรือนหมื่น แนวคิดการสร้างรัฐสภาไทยแห่งใหม่ มีมาตั้งแต่สมัยนายมารุต บุนนาค เป็นประธานรัฐสภา ที่ต้องการขยับขยายเพื่อให้สมศักดิ์ศรีรัฐสภาไทย โดยมีการวางแผนมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถดำเนินการได้จนมาถึงสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ได้รับความร่วมมือจากนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลาโหม ที่ช่วยดำเนินการประสานงานไปยังกองทัพ โดยกองทัพได้อนุเคราะห์พื้นที่บริเวณเกียกกายจำนวน 119 ไร่ ในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ขึ้น ส่วนสถานที่เดิมนี้เป็นที่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นจะต้องถวายคืนพระองค์ท่านต่อไป อย่างไรก็ตามตนขอความอนุเคราะห์จากผู้บริหารอปท.ทุกคน ช่วยกรอกแบบสำรวจความคิดเห็นว่าเห็นชอบต่อการสร้างรัฐสภาใหม่หรือไม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในอนาคตต่อไป

"โคทม"เชื่อกก.สมานฉันท์แก้ความขัดแย้งในสังคมไทย

นายโคทม อารียา ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เชื่อว่า การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไข รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกระบวนการทางรัฐสภา จะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองได้
นายโคทม ซึ่งไปร่วมงานวันรำลึกพฤษภาประชาธรรม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ว่า 17 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สังคมจะตระหนักและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ รอย ทว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นก็มีส่วนสำคัญให้ประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองมาก ขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายงานรำลึกพฤษภาประชาธรรม มีบุคคลที่เคยมีนักการเมืองและผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อ 17 ปีก่อน มาร่วมงานกันหนาตา อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นต้น

"สาทิตย์"ชี้พฤษภาทมิฬบทเรียนสังคมไทย

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเข้าร่วมงานวันรำลึกพฤษภาประชาธรรม ว่า เหตุการณ์วันที่ 17 พฤษภาคม 2535 ถือเป็นบทเรียนของสังคมไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบัน ที่จะต้องตระหนักและทบทวนว่าสังคมไทยควรหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูป แบบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นในอดีต

ขณะเดียวกัน นายสาทิตย์ ได้นำพวงมาลาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาร่วมสดุดีวีรชนด้วย โดยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงไม่สามารถเดินทางมาได้

'จำลอง'ปัดพรรค พ.ป.ป.ไม่เกี่ยว พธม.

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปฏิเสธว่า การยื่นขอจดทะเบียนตั้งพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชื่อย่อ พ.ป.ป.ต่อคณะกรรมการการเมือกตั้งนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มเสื้อเหลือง เพราะพันธมิตรฯกลุ่มเสื้อเหลืองยังไม่เคยมีมติเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง

"ไม่ทราบว่าคนกลุ่มไหนไปจดทะเบียน กกต. เพราะพันธมิตรฯ ยังไม่มีการลงมติเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง จะมีความชัดเจนในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งนัดรวมตัวกันที่เมืองทองธานี โดยจะขอถามความเห็นประชาชน และขอมติจากแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยว่าจะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ และหากจะตั้งพรรค คงจะไม่ใช้ชื่อพันธมิตรฯ แน่นอน เพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสม แต่หากจัดตั้งจะใช้โมเดลของพรรคพลังธรรม"

No comments:

Post a Comment