จับตาดูอีกฝ่ายแถลงเปิดโปงก่อนถูกเขี่ยทิ้ง
จับตา"ชาติชาย"เปิดใจหมดเปลือก ยังกั๊กเก้าอี้รอ “มาร์ค” ตัดสินใจ ฝ่าย “ชวรัตน์” ยันวันนี้ส่งชื่อ รมช.เกษตรฯ คนใหม่แน่นอน เตือน “รมต.ข้าวนอกนา” แถลงจากกันด้วยดี ขณะที่ “มาร์ค” ลั่น “ปชป.” ไม่ร้าว แถมไม่ให้ราคาคนต่อรองเก้าอี้ ส่วน “เทพเทือก” ปัดข่าวให้สัญญาใจ “เฉลิมชัย” จองคิว รมต. งวดหน้า พร้อมอุ้มทีม ศก. ทำงานดี “กอร์ปศักดิ์” ว้าก “เพื่อไทย” ปล่อยข่าวย้ายรังไม่เข้าท่า ฟาก “เสี่ย ตาล” สั่ง “กรมกร๊วก-อสมท” ตีปี๊บผลงาน 6 เดือน รัฐนาวาส่ง “ขุนคลัง” แจง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านวันนี้ “มาร์ค” มั่นใจศาล รธน. ไฟเขียวแน่ ด้าน “เพื่อไทย” ขนฝ่าย ก.ม. แจงศาล เล็งดาบสองถอด “ครม.” ทั้งยวง
“มาร์ค” ไม่ให้ราคาพวกต่อรอง
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ราชบัณฑิตยสถาน สนามเสือป่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงสะท้อนความไม่พอใจของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการปรับ ครม. ทั้งที่เพิ่งจะมีการสัมมนาพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มไหน พร้อมปฏิเสธว่า ไม่มีหรอก ความจริงตอนเป็นฝ่ายค้านก็มีเสียงสะท้อนที่หลากหลายในพรรค พอใจและไม่พอใจก็จะมีการพูดคุยกันในพรรค ถึงวันนี้ตนยังมองว่าไม่มีอะไร
ส่วนที่มีกระแสข่าวให้สัญญาว่าหากมีการปรับ ครม. ครั้งหน้าจะให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามารับตำแหน่งนั้น นายกฯ กล่าวว่า “เรื่องการต่อรองไม่มี และอยากจะขอร้องกับทุกคนที่ออกมาให้ข่าวต้องระมัดระวัง ความจริงปัญหาในเรื่องแบบนี้ผม ก็ย้ำไปแล้วครั้งหนึ่งว่าไม่ได้ช่วยในเรื่องการทำ ให้ประชาชนมีความมั่นใจในการเมืองโดยรวม”
“เทือก”ปัด“เฉลิมชัย”จองคิว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เป็นเรื่องปกติจองตำแหน่งไว้ก่อนได้ ส่วนจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องให้เป็นตามกลไกของพรรค เมื่อตอนไปเกาะสมุยยังได้ คุยได้ทานข้าวกับนายเฉลิมชัย ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่าไม่มีปัญหา ถ้ามีปัญหาก็บอกแล้ว
เมื่อถามว่า โพลบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับ ครม. เพราะมีรัฐมนตรีจำนวนมากที่ไม่มีผลงาน รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ฟังเอาไว้ไปดูว่ารัฐมนตรีคนไหนที่ผลงานไม่ดีก็ขอให้เขาทำงาน เมื่อถามย้ำว่า ในพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะด้านทีมเศรษฐกิจมีหลายคนที่อยากให้มีการปรับ เปลี่ยน นายสุเทพ กล่าวว่า ในสถานการณ์เช่นนี้เข้าใจดีว่าฝ่ายที่รับผิดชอบทำงานยาก ฉะนั้นต้องเห็นใจและให้เวลา แต่ตนเห็นว่าทำงานได้ดีมาก และที่ผ่านมาแก้ปัญหาได้พอสมควร ส่วนเรื่อง ที่นายกฯ ระบุว่า 6 เดือนสมควรที่จะมีการปรับ ครม. นั้น คงต้องไปถามนายกฯ เพราะตนไม่ได้ยินเกรงว่าจะพูดผิดไป
“กอร์ปศักดิ์”ว้าก“พท.”กุข่าว
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่าจะย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากน้อยใจที่ถูก กดดันว่า เรื่องนี้เลิกพูดได้ เพราะเป็นเรื่องเก่า และยืนยันว่าคนที่พูดเป็นการสร้างข่าวออกมาโดยไม่มีมูลความจริง ตนไม่เคยคิดย้ายพรรค ถ้าเลิกเล่นการเมืองก็เลิกไปเลย และการที่เราจะไปทำงานให้กับคนที่เราเคยตรวจสอบและเห็นว่าเป็นคนไม่ดี มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว การที่พรรคฝ่ายค้านปล่อยข่าวออกมาอย่างนี้ คงไม่มีเรื่องอื่นจะทำ น่าจะมาตรวจสอบการทำงานของพวกตนให้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า
ต่อข้อถามว่า ในการสัมมนาพรรคที่เกาะสมุยได้เคลียร์ปัญหากรณีสมาชิกพรรคไม่พอใจการทำงาน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีใครที่ไม่เข้าใจตน เพราะในงานสัมมนาทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสดี ตนอธิบายให้ฟังทุกคนเข้าใจกันหมด ข่าวที่บอก ว่ามีบางคนไม่เข้าใจไม่ทราบว่ามาจากไหน ยืนยันว่าไม่มีใครติดใจ
“จ้อน”เตือน ส.ส. เลิกก่อหวอด
นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางส่วนไม่พอใจการทำงานว่า ตนไปร่วมการสัมมนาพรรคที่เกาะสมุย และได้สอบถาม เรื่องกลุ่ม 40 ส.ส. ทุกคนปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าวนี้ออกมา อย่างไรก็ตาม น่าจะเป็นการหยั่งท่าทีมากกว่า เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าระบบของพรรคจะใช้วิธีต่อรองหรือการสร้างกลุ่มก๊วน ไม่ได้ และไม่เชื่อว่าจะมีลักษณะ การตั้งกลุ่มในพรรคตอนนี้ แต่อาจเป็นเรื่องของตัวบุคคล
เมื่อถามว่า ตัวบุคคลนั้นหมายถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะนายเฉลิมชัยไม่ได้มีเรื่องกับตน และในการเลือกบุคคลเป็นรัฐมนตรีก็เป็นการลงมติเลือกระหว่างนายเฉลิมชัยและ นายธีระ สลักเพชร รองเลขา ธิการพรรค ทั้งคู่เป็น ส.ส. 3 สมัย ส่วนตนอาวุโสสูงสุด 5 สมัย ไม่มีใครมาแข่งอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค และเป็นเรื่องที่ ส.ส. โดยเฉพาะพรรคแกนนำต้องช่วยสนับสนุนการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล ไม่ใช่มาทำให้เกิดปัญหาต่อเสถียรภาพของพรรคแกนนำ
สั่งตีปี๊บผลงานรัฐบาล 6 เดือน
ที่กรมประชาสัมพันธ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว มอบนโยบายการทำงานเรื่อง “ไทยอาสาโฆษกรัฐบาลประจำท้องถิ่น รุ่น 1 (อสฆ.)” ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลจะทำงานครบ 6 เดือนในวันที่ 29 มิ.ย. นี้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานไปทำสรุปผลงานที่เป็นรูปธรรมของรัฐบาลมาให้ชัดเจน เพื่อตอบประชาชนให้ได้ว่านโยบายและการใช้งบประมาณของรัฐบาลในแต่ละเรื่องมี ความคืบหน้าไปเพียงใด ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. นี้ จะประสานไปยังกรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหา ชน) ให้ไปสัมภาษณ์รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงทุกคน เพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงผลงานของแต่ละหน่วยงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาว่าได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง
ฉะแหลกทั้ง“ปชป.-พรรคร่วม”
นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ควรจะให้โอกาสนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นรัฐ มนตรีในการปรับ ครม. ครั้งหน้า เพียงแต่อยากให้ทุกคนได้ทำงานครบเวลา 1 ปีก่อน ใครทำงานไม่ได้หรือไม่สร้างความเข็มแข้งให้กับพรรคก็ควรปลดออกไป นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับการเพิ่มโควตารัฐมนตรีให้กับภาคอื่น ๆ บ้าง ไม่ควรกระจุกอยู่ในภาคใต้เพียงอย่างเดียว
ส.ส.ชลบุรี กล่าวว่า ผู้บริหารพรรคไม่ควรนิ่งนอนใจกับข่าวปล่อยว่ามีสมาชิกจะย้ายพรรค เพราะ ส.ส.หลายคนไม่ได้เข้ามาเพราะกระแสพรรค แต่เข้ามาด้วยความสามารถของตัวเอง หากเอาแต่เล่นพรรคเล่นพวก ผันงบเข้าพื้นที่คนใกล้ชิดตัวเอง ไม่แน่ว่าเมื่อความอดทนของคนหมดลง อาจจะมีคนย้ายพรรคจริง ๆ ก็ได้ นอกจากนี้คนในพรรคเริ่มพูดคุยถึงความอึดอัดที่พรรคร่วมรัฐบาลบีบนายกฯ เพื่อขอโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน ที่ราคาเช่าสูงเกินจริง หรือโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรที่ทำเมื่อไรก็ขาดทุน จึงอยากถามพรรคร่วมรัฐบาลเหล่านั้นว่า คิดถึงประโยชน์ของชาติบ้างหรือไม่ หรือเอาแต่คิดถึงประโยชน์ของตัวเอง อย่างเดียว
“ชวรัตน์”ดักคอจากกันด้วยดี
นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันที่ 26 พ.ค. เวลา 13.00 น. จะแถลงข่าวเปิดใจถึงปัญหาทางการเมืองทุกประเด็น สำหรับการทำงานในตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ถือว่าทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้ให้กำลังใจในการทำงาน ส่วนจะปรับตนออกจาก ครม. หรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม และถ้าหากการปรับ ครม. มีความเหมาะสมก็พร้อมออกจากตำแหน่ง
ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวยืนยันว่า จะส่งชื่อ รมช.เกษตรฯ คนใหม่ให้นายกฯ ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบุคคลใด โดยขณะนี้ยังไม่ได้คุยหารือกับนายกฯ ส่วนการแถลงข่าวของนายชาติชายใน วันที่ 26 พ.ค. ตนไม่ทราบว่าจะแถลงเรื่องอะไร ซึ่งแนวโน้มน่าจะเป็นการจากกันด้วยดี อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าไม่มีการกดดันไม่ให้มีการแถลงข่าว สำหรับโพลที่ต้องการให้ปรับ รมว.มหาดไทย ถือเป็นกระจกเงาให้รู้ข้อบกพร่องเพื่อนำไปสู่การแก้ไข และไม่สามารถตอบได้ว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ นายกฯ จะปรับตำแหน่งของตนหรือไม่
“พรทิวา”โต้ถูกเขี่ยพ้น ครม.
ที่กองบัญชาการกองทัพบก นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการถูกปรับออกจาก ครม. ว่า นายกฯ พูดชัดเจนว่าจะปรับเพียง 1 ตำแหน่ง คือ รมช. เกษตรฯ เมื่อถามว่า รู้สึกหนักใจและน้อยใจหรือไม่ที่ถูกกระแสให้ปรับพ้นตำแหน่ง นางพรทิวา กล่าวติดตลกว่า “ไม่มี สีทนได้” เมื่อได้รับมอบหมายให้มาทำงานตรงนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุด และจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ในการเข้าหารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ครั้งนี้ ท่านได้ให้กำลังใจ โดยบอกว่าให้สู้และยิ้มเข้าไว้ เรื่องธรรมดาที่ในการงานต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนกระแสข่าว ส.ส.พรรคอื่นมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ก็มีมาบ้างแล้ว แต่ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เห็น ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมกับ ผบ.ทบ. ได้พูดคุยถึงจะเสนอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม มาเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ได้คุย คงต้องเป็นเรื่องของพรรค
รบ.ส่ง“ขุนคลัง”ชี้แจงเหตุผล
อีกเรื่องหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ในวันที่ 26 พ.ค. ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะเดินทางไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปร่วมชี้แจง ด้วย ซึ่งตนได้ดูคำชี้แจงที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้วและมั่นใจว่า จะสามารถ ชี้แจงได้ เพราะเมื่อดูจากเหตุผล และแนววินิจฉัยในอดีตที่รัฐบาลนำมาใช้ตัดสินใจก็คิดว่าทุกอย่างเป็นไปตาม เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะไปชี้แจงข้อมูลต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจว่าศาลต้องการผู้เกี่ยวข้องโดยตรงคือกระทรวงการคลัง แต่หากมีอะไรอยากสอบถามเพิ่มเติมตนก็ยินดี อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา กระทรวงการคลังก็ต้องเตรียมการให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องการออกพันธบัตร
“พท.” เล็งดาบสองฟัน “ครม.”
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า คณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ และตนเอง รวมถึงฝ่ายกฎหมายจะเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามหากศาลชี้ว่าไม่ขัด รัฐธรรมนูญจะเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ถ้าขัดรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจะยื่นฟ้องนายกฯ และ ครม. ทั้งคณะ ข้อหาจงใจกระทำการขัดรัฐธรรม นูญ รวมทั้งรวบรวมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 4 เพื่อยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 ด้วย
รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ การออก พ.ร.ก. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเนื้อหาของ พ.ร.ก. ชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 หรือไม่ หากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่ซับซ้อนมาก คาดว่าจะสามารถวินิจฉัยได้ในวันที่ 27 พ.ค. นี้เลย
ปูดรัฐนาวาส่งสัญญาณยุบสภา
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากเพื่อน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลได้สั่งให้ ส.ส. เร่งลงพื้นที่ภายใน 1-2 เดือนนี้ เพราะอาจมีการยุบสภาก่อนเดือน ธ.ค. ปีนี้ สาเหตุหลักมาจากความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตลอดจนความระหองระแหงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล หากยื้อต่อคะแนนเสียงจะยิ่งหายไป ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้เตรียมความพร้อมแล้ว
ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ค่อนข้างแน่ชัดว่าการประชุมพรรคในวันที่ 31 พ.ค. จะยังไม่มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดย ขณะนี้แกนนำพรรคกำลังดำเนินการทาบทามผู้ที่เหมาะสมเพื่อเป็นหัวหน้าพรรคยาว ไปจนถึงการเลือกตั้ง ยอมรับว่ามีนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯ รวมอยู่ด้วย ซึ่ง ส.ส.จำนวนมากสนับสนุนเนื่องจากมีความรู้โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ หากพรรคได้มาเป็นผู้นำเชื่อว่าประชาชนจะให้การสนับสนุน
แนะ ขรก.วางแผนบริหาร ม.190
เย็นวันเดียวกัน ที่โรงแรมดุสิตธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ บรรยายพิเศษในหัวข้อมุมมองด้านการต่างประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบันตอนหนึ่ง ว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินงานต่างประเทศอย่างเต็มที่ในขณะเดียวกันต้อง รักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริม นโยบายด้านการต่างประเทศในเชิงรุก อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญได้มีบทบัญญัติมาตรา 190 ซึ่งโดยเจตนาแล้วถือว่าสอดคล้องกับงานด้านต่างประเทศในยุคปัจจุบัน แต่มีปัญหาเนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมที่ชอบแปลความหมายจึงไม่รู้ว่าอะไรคือ ความชัดเจนหรือเป็นเรื่องที่ต้องเข้าสภา ซึ่งตนกำลังแสวงหาความพอดีในเรื่องนี้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานวางแผนการทำงานว่าเรื่องใดอยู่ระหว่างการเจรจากับต่าง ประเทศโดยต้องมีการบริหารจัดการเวลากับสภา ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยาก นอกจากนั้นถือว่าทุกหน่วยงานมีส่วนช่วยในการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งควรจะทำงานแบบบูรณาการ
สภาสูงหนุนที่มา ส.ว. 2 ระบบ
วันเดียวกัน เวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 วุฒิสภา โดยที่ประชุมได้หารือประเด็นที่มาของ ส.ว. นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี และประธาน กมธ. กล่าวว่า ส.ว.ชุดนี้ มาจากการเลือกตั้งและสรรหา ร่วมงานมาปีกว่า ทั้งสองฝ่ายต่างเติมเต็มความรู้ซึ่งกันและกัน จึงน่าจะคงไว้ให้มีสองประเภทคู่กัน เพียงแต่ที่ผ่านมาการเรียกชื่ออาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ดังนั้นอาจจะเปลี่ยนชื่อจาก ส.ว.สรรหา เป็น ส.ว.ภาคคุณวุฒิ ส่วน ส.ว.เลือกตั้งใช้ว่า ส.ว. ภาคประชาชน ส่วนจังหวัดใหญ่ก็น่าเพิ่มจำนวน ส.ว. ให้มาก
นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่มาของ ส.ว. น่าจะอยู่ที่ช่วงเวลาความเหมาะสม เพราะเลือกตั้งทั้งหมดหรือแต่งตั้งทั้งหมดก็ถูกด่า ตนมองว่า เลือกตั้งทั้งหมดอาจไม่เหมาะ น่าจะมีสรรหาเข้ามาด้วย ประเด็นจึงน่าจะมามองว่า ทั้งสรรหาและเลือกตั้ง จะทำอย่างไรให้ได้คนตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ตั้งประเด็นลดอำนาจ “ลากตั้ง”
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า วุฒิสภาควรเป็นตัวแทนของกลุ่มที่ หลากหลายจากสาขาวิชาชีพ แต่จะมาด้วยการเลือกตั้งหรือสรรหาก็ควรจะมีการพิจารณาอีกครั้ง หากมีการสรรหาควรจะมีการสรรหาตามสาขาวิชาชีพจริง ๆ เพื่อเป็นตัวแทนจากทุกภาคส่วน ขณะที่นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร กล่าวว่า ตนเป็น ส.ส.ร.ปี 2550 จากการรับฟังความเห็นประชาชน 3 ครั้ง พบว่า ประชาชนต้องการให้ ส.ว.เลือกตั้ง แต่สุดท้ายคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญให้มาแบบผสม
ในช่วงท้ายการประชุม นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ในฐานะเลขานุการ กมธ. ได้สรุปผลดังนี้ 1.ที่มาของ ส.ว. ให้คงไว้ทั้ง 2 ประเภท คือ สรรหาและเลือกตั้ง 2.การทำหน้าที่ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง หากยังคงมีสัดส่วนของ ส.ว. สรรหา มีข้อสังเกตว่าจะมีความเหมาะสมหรือไม่ รวมทั้งมีข้อเสนอว่า กระบวนการในการสรรหา ส.ว. ควรที่จะมีการครอบคลุมกลุ่มวิชาชีพและกลุ่มประชากร.
Monday, May 25, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment