ก.พ.ร.ชง ครม.ยุบ 2 องค์การมหาชน

รายงานข่าวจาก ทำเนียบรัฐบาลแจ้ง ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบ ราชการ (ก.พ.ร.) จะเสนอเรื่องแนวทางการบริหารของคณะกรรมการองค์การมหาชน ให้ ครม. พิจารณา โดย ก.พ.ร. รายงานว่า การบริหารงานของคณะกรรมการองค์การมหาชนบางแห่งยังไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิ บาล ก.พ.ร. จึงได้จัดทำแนวทางการบริหารของคณะกรรมการองค์การมหาชนเพื่อให้นำไปใช้เป็น แนวปฏิบัติ ประกอบกับมีข้อสังเกตจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2551 ว่าการดำเนินงานขององค์การมหาชน และกองทุนเงินทุนหมุนเวียนบางแห่งคล้ายคลึงกับส่วนราชการ แต่มีการใช้จ่ายทางด้านบุคลากรและการดำเนินงานในอัตราที่สูง ไม่ประหยัด รัฐบาลควรพิจารณาทบทวนภารกิจ โครงสร้างองค์กร และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขององค์กร รวมทั้งอาจพิจารณายุบเลิกหน่วยงานดังกล่าวอย่างจริงจัง

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับแนวทางการบริหารคณะกรรมการองค์การมหาชนที่ ก.พ.ร. เสนอ อาทิ 1. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดกรอบวงเงินรวมสำหรับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ทั้งอัตราเงินเดือน เบี้ยประชุม จากเดิมกำหนดไว้ ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินอุดหนุนประจำปี แต่หากหน่วยงานใดทำไม่ได้ให้เสนอ ก.พ.ร. เพื่อ พิจารณาเป็นรายกรณี โดยให้ขอความเห็นของ กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย 2. ให้คณะกรรมการองค์การมหาชนมีหน้าที่กำกับการบริหารการเงินเพื่อให้ลดค่าใช้ จ่าย และกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการตามหลักเกณฑ์ที่ ครม. กำหนด ซึ่งมีอัตราขั้นต่ำ ตั้งแต่ 100,000 ถึงขั้นสูงสุด 300,000 บาทต่อเดือน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับ การพิจารณายุบเลิกองค์การมหาชนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์และ ไม่คุ้มค่าใช้จ่ายตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ก.พ.ร. ได้ว่าจ้างบริษัททริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TRIS.) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการประเมินผลเข้ามาดำเนินการ ปรากฏว่าจากการประเมิน ผลการปฏิบัติงานตามคำรับรองการปฏิบัติงาน ประจำปี 2551 ขององค์การมหาชน 19 แห่ง พบว่าส่วนใหญ่มีผลคะแนนอยู่ในระดับดีเยี่ยม มีเพียง 2 แห่ง ที่ได้คะแนนต่ำสุด แต่ยังอยู่ในระดับเป็นไปตามเป้าหมายได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่ง ยืนและสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจ กับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม จากการประเมินผลการปฏิบัติงานขององค์การมหาชน ประจำปี 2550 มีผลทำให้ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 49 มีมติยุบเลิกองค์การมหาชน ไปแล้ว 1 แห่ง คือสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน.