Monday, May 11, 2009

ต้องตัดหาง "สามเกลอ" !

ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวาระ "ใคร ? ทำร้ายประเทศไทย" เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ วัดไผ่เขียวนั้น สะท้อนความเหนียวแน่นและเข้มข้นของ "สีแดง" ได้ในระดับที่น่าพอใจทีเดียวสำหรับแกนนำ

เพราะถึงแม้ฝนฟ้าจะกระหน่ำอย่างรุนแรงเกือบตลอดทั้งวัน แต่มวลชนสีแดงก็ยังปักหลักรวมพลัง และพร้อมที่จะเคลื่อนไหวกันอีก

ความเกลียดชังรัฐบาลชุดนี้ รวมถึงเสื้อเหลือง เสื้อน้ำเงิน ทุนบางกลุ่ม สื่อ อำมาตยาธิปไตย รวมทั้งกองทัพด้วยนั้น

จึงเป็นสิ่งน่าสนใจว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนความเชื่อที่ "สามเกลอหัวขวด" บรรดาแกนนำโฆษณาชวนเชื่อปลุกเร้ามวลชนได้อย่างไร?

เพราะการให้ข้อมูลแบบครึ่งๆ กลางๆ แถมในหลายประเด็นยังมีการเบี่ยงเบนและบิดไปบิดมาหลายครั้งหลายคราวผ่าน สื่อมวลชนและบนเวทีต่างๆ ได้ทำให้มวลชนเสื้อแดง "เชื่อโดยสนิทใจ" ไปแล้ว

แต่ถึงกระนั้น เมื่อรวมถึงหนังสือ คำบอกเล่าปากต่อปาก และวีซีดีที่มีการผลิตแจกจ่ายอัดตรงไปยังฐานรากในต่างจังหวัด

อีกทั้งการกระทำของ "วีระ มุสิกพงศ์-จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" และแกนนำคนอื่นๆ รวมถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ช่วยกันป่าวประกาศแบบข้างๆ คูๆ และไร้เหตุผลแบบที่ปุถุชนทั่วไปมิพึงกระทำกันนั้น

ย่อมประเมินได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าสังคมส่วนใหญ่ "ไม่ยอมรับ" !

มวลชนเสื้อแดงควรใช้สามัญสำนึกไตร่ตรองกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้วว่าใคร พูดจริง ใครพูดเท็จ กับประวัติศาสตร์ด้านลบของประเทศอีกบทหนึ่งในช่วงที่ผ่านมา

แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องยอมรับว่า "การให้ข้อมูลเท็จ" ได้กลายเป็นจุดขายสำคัญที่ตรึงอารมณ์คนเสื้อแดงให้เกิดความรู้สึกร่วมที่จะ ฟันฝ่าไปให้ถึงจุดหมาย "แดงทั้งแผ่นดิน"

และ "ประชาธิปไตยในระบอบทักษิณ" นั่นเอง !!!

หากพินิจพิเคราะห์การแถไปวันๆ ของบรรดาแกนนำ จะพบว่าการลวงโลกและมดเท็จรายวันอย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นกรณีการปิดล้อมทำเนียบ สถานที่สำคัญทางราชการ และบุคคลสำคัญ

การปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ การล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา การบุกกระทรวงมหาดไทยเพื่อเตรียมทำร้ายและเอาชีวิตของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และคีย์แมนคนอื่นๆ ในรัฐบาล

การปล้นและเผารถเมล์ การเสียชีวิตของประชาชนย่านนางเลิ้ง รวมทั้งหลายพื้นที่ใน กทม. การนำรถแก๊สไปไว้ในพื้นที่ชุมชน ฯลฯ

การกระทำเหล่านี้ถูกปฏิเสธหน้าตาเฉยว่า มิใช่คำสั่งของ "นายใหญ่" และความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็เป็นผลงานของ "เสื้อแดงเทียม" และมีการสร้างสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่รัฐและกองหนุนบางส่วน

เพราะคนเสื้อแดงต้องการประชาธิปไตย และล้มอำมาตยาธิปไตยเท่านั้น

หมายความว่า ต่างๆ นานาที่ปรากฏและผ่านการรับรู้ของสังคม คนเสื้อแดงมิยอมรับว่าเป็นฝีมือของตัวเอง

แต่สื่อระดับโลกหลายสำนัก รวมทั้งสื่อในประเทศเกือบทั้งหมด ทำไมมีการเสนอข่าวในทิศทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ "ทักษิณ" และคนเสื้อแดงกล่าวอ้างไว้เลย

หากจับสังเกตดีๆ คำพูดในปัจจุบันกาลของแกนนำคนเสื้อแดงนั้น กำลังบิดประเด็นเพื่อเลี่ยงหนีกับสิ่งที่เคยกระทำไว้ในอดีตแบบน้ำขุ่นๆ

เพราะสังคมจับได้คาหนังคาเขาแล้วกับกรรมวิธีที่ค่อนข้างไร้ความเชื่อถือกับข้อมูลแบบนี้ของแกนนำคนเสื้อแดง

การใช้ความแข็งกร้าวและไร้เหตุผลเช่นนี้ แม้แต่เสียงเตือนของคนเดือนตุลาสายชินวัตร และ จาตุรนต์ ฉายแสง ที่ส่งไปก็เปี่ยมล้นไปด้วยความไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะมันเลยเส้นความพอดีไปมาก !!!

โดยเฉพาะในประเด็นที่ "จาตุรนต์" ได้สรุปผ่านหนังสือ "ความจริง...วิกฤตประเทศไทย" เกี่ยวกับการออกมาเคลื่อนไหวของ "ทักษิณ" ที่ว่า...

"คนที่ต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้สังคมเชื่อว่าเป็นการต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตย ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อคนคนเดียว การจะดึง พ.ต.ท.ทักษิณมาผูกกับการต่อสู้ชนิดเป็นผู้บัญชาการหรือตะลุมบอนไปด้วยกัน ไม่น่าจะเป็นผลดี"

แต่กระนั้นก็เชื่อว่าจะไร้เสียงตอบรับของแกนนำ เพราะความเชื่อว่าสิ่งที่ดำเนินการไปนั้นชอบธรรม และ "นายใหญ่" พอใจ

แกนนำเหล่านี้ไม่รู้เลยว่าการกระทำที่ผิดพลาดของตนเองได้ทำลายแนวร่วม ที่วางตัวเป็นกลาง และบีบให้สังคมไม่เอาด้วยกับสิ่งที่คนเสื้อแดงทำร้ายประเทศไทย

ต้องยอมรับว่ากระบวนยุทธ์ในการเล่นกับมวลชนนั้น พันธมิตรฯ แปรรูปแบบและยุทธวิธีได้ดีกว่า นปช.

หลังการเพลี่ยงพล้ำในการรบ 193 วันนั้น บรรดาแกนนำมีการขอความเห็นมวลชนในการตั้งพรรคการเมืองเพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ตามอุดมคติ

แต่ นปช.กลับ กระทำการที่ "ล้ำเส้น" และที่เคยออกตัวไว้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยคนเสื้อเหลือง ก็เกิดขึ้นจนได้ มิหนำซ้ำยังรุนแรงกว่า และยิ่งซ้ำเติมประเทศให้ย่ำแย่ลง

วันนี้ "ทักษิณ" น่าจะรู้ตัวเองดีแล้วว่าโอกาสที่จะได้กลับประเทศเป็นศูนย์ เพราะวีรกรรมที่ได้ทำเอาไว้ รวมถึงยุทธวิธีที่เรียก "ม้าใช้" อย่างสามเกลอมาเป็นหัวขบวน ยิ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์

เพราะถึงแม้ยุทธวิธีของ "สามเกลอ" อาจจะชนะใจกำลังพลของตัวเอง

แต่ฝ่ายตรงข้ามและคนกลางนั้นคงมิอาจรับสภาพเช่นนี้และพร้อมที่จะต่อต้านทันที

หาก "ทักษิณ" ยังไหวตัวทัน ก็น่าจะตัดหาง "สามเกลอ" ออกจากยุทธวิธีสู้รบโดยเร็วที่สุด

ก่อนที่สังคมจะตราหน้า "ทักษิณ" ในฐานะคนทำร้ายประเทศอย่างสมบูรณ์แบบ !!!

No comments:

Post a Comment