Monday, May 11, 2009

บิ๊กการเมืองร่วมตีกอล์ฟ ชิงถ้วย'ทักษิณ'

นายกฯยอมรับจ่อรีดภาษีที่ดิน

"ประชาธิปัตย์"แอ่นอกพร้อมรับมือ"เพื่อไทย"ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.บ.เงินกู้"มาร์ค"มั่นใจ พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทผ่านสภา แย้มสั่งคลังดูลู่ทางรีดภาษีที่ดินและมรดก ด้าน “โฆษกพรรค” เผยจำเป็นต้องกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสภาพคล่อง รับประกันโปร่งใสไม่เอื้อการเมือง แถม ไม่ขายสมบัติชาติ จวก พท.ยื่นตีความจะทำให้โครงการต่าง ๆ ล่าช้าและประชาชนอาจเสียประโยชน์ “เทพไท” โวเป็นรัฐบาลกู้สิบทิศดีกว่าเป็นรัฐบาลที่โกงร้อยแปด ขณะที่ศิษย์เก่าไทยรักไทยนัดชุมนุมดวลวงสวิงชิงถ้วย “นายใหญ่” ด้าน “ภูมิใจไทย” นัด ส.ส.ติวเข้มระดมสมองร่างนโยบายเตรียมพร้อมรับเลือกตั้ง โวเที่ยวหน้าตั้งเป้าหลักร้อย แย้มมี ส.ส.พรรคอื่นเตรียมมาซบอกอีกกว่า 20 คน ด้าน “ว.วชิรเมธี” เทศน์เจ็บผู้บริหารบ้านเมืองอยากได้ตำแหน่ง แต่ไม่มีความสามารถ

แจงเหตุต้องออก พ.ร.ก.กู้เงิน

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ฝ่ายค้านเตรียมล่ารายชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่ารัฐบาลกระทำการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 184 และ 185 ในกรณีออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทว่า รัฐบาลจะไม่ทบทวนการออก พ.ร.ก.กู้เงิน เพราะได้ดูอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ นี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องมีการออก พ.ร.บ.ที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 4 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าเรื่องที่เข้าเงื่อนไขเป็น พ.ร.ก.ไม่ใช่ทั้งเงิน 8 แสนล้านบาท แต่เข้าเงื่อนไขเพียง 4 แสนล้านบาท จึงออกเป็น พ.ร.ก. 4 แสนล้านบาท และจะเสนอออกเป็น พ.ร.บ.อีก 4 แสนล้านบาท แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาจะหลบเลี่ยงวิธีใช้พ.ร.บ.แต่พิจารณาเฉพาะ ส่วนที่เข้าเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่จะออกเป็น พ.ร.ก.

“เรื่องนี้ไม่มีการบิดเบือน เราจะนำเสนอรายละเอียดทั้งหมดต่อรัฐสภาให้ตรวจสอบ รวมถึงโครงการต่าง ๆ ด้วย ในอดีตการกู้เงินไม่ต้องเสนอโครงการ เพียงแค่เขียนยอดเงินกู้และวัตถุประสงค์กว้าง ๆ แต่ครั้งนี้จะให้สมาชิกได้รับทราบโครงการต่าง ๆ ด้วย จะได้ดูว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำเป็นประโยชน์และโปร่งใสอย่างไร โดยเฉพาะเงินก้อนใหญ่ที่จะนำไปลงทุนในเรื่องแหล่งน้ำ ถนน และระบบขนส่ง เป้าหมายทั้งหมดที่ทำเพื่อให้ประเทศไทยเข้มแข็ง มีความพร้อมในเรื่องโครงการสร้างพื้นฐาน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

แย้มตั้งใจเก็บภาษีคนรวย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสามารถโน้มน้าวให้รัฐสภาเห็นชอบในการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มั่นใจและเชื่อว่าทุกคนต้องการเห็นการลงทุนในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับ เกษตรกร การศึกษา และการสาธารณสุข ถ้าใครคัดค้านก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่าทำไมเราไม่ควรทำสิ่งเหล่านี้ เมื่อถามว่า มี ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่ยังติงว่ารัฐบาลไม่ควรกู้เงินทีเดียว 8 แสนล้านบาท นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยามนี้รัฐบาลต้องเป็นผู้ลงทุน ทั่วโลกก็มองคล้าย ๆ กันว่าภาครัฐมีความพร้อมที่สุด และอยู่ในฐานะที่ทำได้เร็ว นอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งขึ้นด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งฉายารัฐบาล “นักสู้กู้สิบทิศ” นายอภิสิทธิ์หัวเราะในลำคอก่อนตอบว่า มันก็กู้กันทุกรัฐบาล พ.ร.ก.กู้เงินฉบับสุดท้ายที่ออกมาก็คือในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อถามถึงความชัดเจนในการพิจารณาจัดเก็บภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อหารายได้เข้ารัฐเพิ่มเติม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง พูดมาตั้งแต่ต้นรัฐบาล เพียงแต่เป็นภาษีใหม่การดำเนินการต้องทำเป็นกฎหมายมีรายละเอียดค่อนข้างมาก คงต้องใช้เวลา

ไม่หวั่นกระทบหัวคะแนน

“หลักสำคัญที่รัฐบาลดำเนินการในขณะนี้คือ ต้องลงทุนเพื่อให้ประเทศมีความพร้อมในภาวะที่ภาคเอกชนยังลังเล ปัญหาคือเราจะเอาเงินมาจากไหน ซึ่งรัฐบาลไม่มีแนวคิดจะขึ้นภาษีเงินได้ เพราะการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลอยู่ในอัตราค่อนข้างสูง อยู่แล้ว จึงเลือกเก็บภาษีสรรพสามิต เช่น เหล้า ซึ่งคิดว่าทุกคนน่าจะยอมรับได้ ส่วนภาษีน้ำมันแม้จะมีการขยายเพดานภาษีขึ้นไป แต่ในช่วงแรกกองทุนน้ำมันจะเข้ามาดูแลชดเชย ซึ่งจะไม่กระทบหรือทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ส่วนภาษีทรัพย์สินและมรดกเป็นเรื่องที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ก็ต้องเดินหน้าในส่วนนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองว่าเหตุที่รัฐบาลดึงเรื่องการเก็บภาษีที่ดินและมรดกเพราะเกรง กระทบคนรวยและหัวคะแนน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่เคยมีรัฐบาลไหนในอดีตระบุชัดว่าจะทำ แต่กฎหมายและการวางระบบต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะในหลายประเทศก็มีการปรับเปลี่ยนเรื่องภาษีมรดกค่อนข้างมาก เพราะมันมีวิธีหลบเลี่ยงอยู่เหมือนกัน แต่ภาษีทรัพย์สินน่าจะเร็วกว่า เพราะมีการศึกษามาแล้วหลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จสักที ครั้งนี้คิดว่าจะมีการต่อยอดและทำได้สำเร็จ ซึ่งจะสามารถช่วยท้องถิ่นได้มาก

โวไตรมาส 4 จีดีพีบวก

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมาว่า เม็ดเงินโครงการต่าง ๆ เพิ่งลงไปถึงมือประชาชนในเดือน เม.ย.ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือน ก.พ.แต่ยังมีปัจจัยเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกที่ควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังยึดเป้าหมายเดิมคือชะลอการหดตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงไตรมาสที่ 2 น่าจะเป็นไปตามเป้า และยังยืนยันว่าจีดีพีจะกลับมาอยู่ในแดนบวกในไตรมาสที่ 4

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคิดว่ารัฐบาลสอบผ่านเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่เคยประกาศไว้เป็นเป้าหมายก็สามารถทำตามนั้น ส่วนกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เสนอให้ใช้นโยบายค่าเงินบาทอ่อนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวน หรือแข็งเกินไปจนเสียเปรียบอยู่แล้ว

โฆษกฯย้ำกู้เพื่อจ้างงาน

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้พรรคเพื่อไทยที่กล่าวหาการจัดทำงบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ปี 2555 เป็นไปด้วยเจตนาทางการเมือง และอาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจัดเรื่องการใช้เงินนอกงบประมาณเข้าสู่การพิจารณา สภา ในส่วนของ พ.ร.ก.การกู้เงิน 4 แสนล้านบาท ขอยืนยันว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเสริมสภาพคล่อง เพื่อบริหารให้เกิดความสัมฤทธิผล เนื่องมาจากปัญหาภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ และการเมืองที่อาจส่งผลกระทบไปถึงปัญหาสังคม จึงต้องหาเงินมาทดแทนเงินภาษีอากรที่เก็บได้น้อยกว่าปกติ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ในส่วนเงินกู้อีก 2 แสนล้านบาทใน พ.ร.ก.ที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่าดำเนินการเพราะมีแรงจูงใจทางการเมืองนั้น พรรคขอยืนยันว่าเงินดังกล่าวเป็นการใช้จ่ายในโครงการที่มีความพร้อมดำเนิน การได้ทันที และได้เลือกเฉพาะโครงการที่กระจายประโยชน์สู่ทุกพื้นที่ของประเทศ มีการจ้างงานและสร้างงานในชุมชนท้องถิ่น โดยประเมินว่าจะสามารถจ้างงานได้ประมาณ 1.6-2 ล้านตำแหน่ง โดยไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้นการจัดงบครั้งนี้จึงมีความโปร่งใส

ท้า “เพื่อไทย” ใครได้ประโยชน์

“ขอท้าไปยังพรรคเพื่อไทยที่กล่าวหาว่าตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ได้ รับประโยชน์จากการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยเปิดเผยมาให้ชัดว่าหมายถึงใครที่ได้ประโยชน์ การที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ พรรคพร้อมให้การตรวจสอบ แต่หากทำให้โครงการล่าช้าออกไป ผู้ได้รับผลกระทบคือประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีการทับซ้อนผลประโยชน์เหมือนในอดีต การทำงานของรัฐบาลอยู่บนพื้นฐานของการไม่ขายสมบัติของชาติ ไม่มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ให้สัมปทานผูกขาดตกอยู่ในมือเอกชน โดยการขึ้นภาษีที่มีฐานจำกัดและรัฐบาลกู้เงินมาเพื่อลงทุนไม่ใช่กู้มาเพื่อ เป็นค่าใช้จ่ายหรือกู้มาเพื่อให้ประชาชนกู้ต่อ และเป็นหนี้เหมือนในอดีต ที่กู้เงินโดยไม่รับผิดชอบ ถือว่ามีความแตกต่างกันมาก” นพ.บุรณัชย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดในการเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดก นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยในพรรคหลายครั้ง ยืนยันว่าการเก็บภาษีดังกล่าวจะคำนึงถึงการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยนายกฯ ได้สั่งให้กระทรวงการคลังไปศึกษาการออกกฎหมายอย่างจริงจังและรอบคอบ

ยันไม่ขายสมบัติชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลเตรียมจัดทำนั้นประกอบด้วย การจัดทำแหล่งน้ำและระบบชลประทานทั่วประเทศ 4 หมื่นล้านบาท โครงการสร้างถนนสู่หมู่บ้านทั่วประเทศ 1.9-2 หมื่นล้านบาท โครงการบูรณะซ่อมแซมยกระดับโรงเรียนทั่วประเทศให้มีอุปกรณ์ที่มีความพร้อม และห้องสมุด 800 อำเภอกว่าหมื่นแห่ง และการยกระดับสถานีอนามัยขึ้นเป็นโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพประจำตำบล 9,000 แห่งทั่วประเทศ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยให้ฉายาเป็นรัฐบาลกู้สิบทิศว่า ต้องเข้าใจว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้รัฐบาลจำเป็นต้องหาเงินมาแก้ปัญหา เศรษฐกิจ หนทางเดียวที่จะไม่กระทบ ต่อประชาชนคือการกู้เงินในและนอกประเทศ รัฐบาลจะไม่เลือกเหมือนรัฐบาลชุดก่อนคือการขายสมบัติชาติให้พวกพ้องเข้ามา ตักตวง หรือค้ากำไรในตลาดหลักทรัพย์ ยืนยันว่าการกู้เงินจะนำมาใช้แก้ปัญหาให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็ม หน่วย จะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ถือว่ายังดีกว่ารัฐบาลชุดก่อนที่เป็นรัฐบาลโกงร้อยแปด คือโกงทุกอย่าง

เตือนฝ่ายค้านใช้สติส่งตีความ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.ก.เงินกู้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญว่า ไม่กระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ทุกอย่างยังคงขับเคลื่อนไปตามขั้นตอน ถ้ามีการยื่นเรื่องจริงก็ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับวินิจฉัยหรือไม่ ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยศึกษาให้ดีก่อน เพราะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับตีความเรื่อง ที่พรรคเพื่อไทยยื่นคำร้อง การเมืองไม่ควรมีซ้ายและขวาตลอด แต่ควรมีความร่วมมือต่อกันด้วย ไม่อย่างนั้นเขาไม่เรียกว่าฝ่ายค้านในระบอบประชาธิปไตย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุม ส.ส.ของพรรคในวันที่ 12 พ.ค.ว่า จะเป็นการหารือเรื่องกรอบ การประชุมร่วม 2 สภา จะมีการพิจารณากรอบกฎหมาย 5-6 ฉบับ ไม่ได้เป็นการหารือเรื่องการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือสถานการณ์ทางการเมือง อย่างไรก็ตาม จะมีการเตรียมการรับมือการอภิปรายกฎหมายว่าด้วยการขอกู้เงินจำนวน 4 แสนล้านบาทด้วย เนื่องจากเชื่อว่าฝ่ายค้านจะ โจมตีเรื่องนี้อย่างแน่นอน ทั้งที่การกู้เงินเป็นมาตรการที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ศิษย์เก่า ทรท.นัดดวลวงสวิง

ส่วนการเมืองอื่นที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตนักการเมืองพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และส.ส.พรรคเพื่อ ไทย ร่วมลงแข่งขันกอล์ฟรายการ “สังสรรค์สามัคคี 111+37=เพื่อไทย” มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจัดการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมของรางวัลมากมาย อาทิ โทรทัศน์จอแบน 29 นิ้ว เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังเนกไทที่มีลายเซ็นภาษาอังกฤษของ พ.ต.ท. ทักษิณ ไว้เป็นของที่ระลึกแก่ผู้ที่มาร่วมแข่งขันด้วย

นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีการแข่งขันโดยรวมศิษย์เก่าพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาเล่นกอล์ฟ ด้วยกัน เพราะเป็นฝ่ายค้านแล้วมีเวลาว่างเยอะ เรื่องนี้นายสมชายแจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบแล้ว การรวมตัวกันช่วงก่อนปิดสภาจะทำได้ง่ายกว่าในช่วงปิดสมัยประชุม และมีอดีต ส.ส.ที่ย้ายไปพรรคอื่นก็อยากมาร่วมงาน เมื่อถามว่า การจัดงานนี้เพื่อต้องการดึง ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ให้ย้ายพรรคใช่หรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เพื่อให้ ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.รุ่นใหม่ รวมทั้งคนที่ทำงานกับพรรคได้อุ่นใจ เพราะมีการเชิญอดีตนักการเมืองชั้นผู้ใหญ่มาให้กำลังใจ

ภท.นัดละลายพฤติกรรม ส.ส.

อีกด้านหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรค แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ในช่วงปิดสมัยประชุมพรรคจะจัดประชุม ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครของพรรคระหว่างวันที่ 10-12 มิ.ย.ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยการประชุมจะเน้นด้านวิชาการและการระดมความคิดเห็น เพราะพรรคมีนโยบายประชานิยม สังคมเป็นสุข

เมื่อถามว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในอนาคตเพราะจะมีการเลือกตั้งในเร็ว ๆ นี้หรือ ไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองตามปกติ เบื้องต้นจะเป็นการละลายพฤติกรรมของสมาชิกพรรคที่มาจากหลายพรรคการเมือง จึงจำเป็นต้องหล่อหลอมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ยืนยันว่าในการสัมมนาพรรคครั้งนี้ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณเลือกตั้งหรือยุบ สภา เพราะเรามั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ยาวแน่นอน

เลือกตั้งหน้าอาจได้ถึงร้อย

“ปัจจุบันเรามี ส.ส. 40 คนก็อยากได้เพิ่มอีก 2 เท่าเป็น 80 คน แต่ถ้าได้ถึง 100 คนก็เป็นพระคุณแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับความกรุณาของชาวบ้านว่าจะชื่นชอบนโยบายประชานิยมและตัวบุคคล ของพรรคหรือไม่ หากเรามีระยะเวลาพอสมควรก็มั่นใจว่าจะได้จำนวน ส.ส.อยู่ในระดับที่น่าพอใจ” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว เมื่อถามว่า หนักใจพื้นที่ภาคอีสานที่เป็นพื้นที่หลักของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มั่นใจว่า พี่น้องชาวอีสานรู้ดีว่าเลือกพรรคไหนแล้วจะได้ประโยชน์สูงสุด

ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า การประชุมสัมมนาครั้งนี้จะจริงจังและเครียด ทุกคนต้องมุ่งมั่นอยู่กับการสัมมนาต้องปิดโทรศัพท์ห้ามติดต่อกับคนภายนอก เพราะเราต้องการเอาแนวคิดมาทำเป็นนโยบายพรรค แม้ว่าเราไม่ได้เปิดกว้างสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าใครอยากเข้าร่วมเราก็ไม่ได้ปิดกั้น โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้มี ส.ส.พรรคอื่นอีก 20 คนอยากมาอยู่กับพรรค แต่ตามนิตินัยยังมาไม่ได้

ปริศนาธรรม “ว.วชิรเมธี” เจ็บ

วันเดียวกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะกรรมการจัดงาน 110 ปีชาตกาล รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ แถลงความพร้อมจัดงาน 110 ปี เพื่อเผยแพร่ภารกิจและผลงานอาจารย์ปรีดี โดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ปรีดี พนมยงค์กับพระพุทธศาสนา” ว่า นายปรีดีเป็นกัลยาณมิตรของสังคมไทย แต่ภาวะวิกฤติด้านต่าง ๆ ที่เกิดกับบ้านเมืองปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าผู้นำผู้บริหารบ้านเมืองยังไม่เป็นกัลยาณมิตรต่อสังคม หลายคนอยากได้ยศตำแหน่ง ไม่เคยถามว่าตนเองมีความรู้ความสามารถหรือไม่ จึงทำให้บ้านเมืองเสียหาย คนไทยจึงควรตระหนักว่าจะเลือกผู้นำแบบใด จะปล่อยบ้านเมืองให้คนไม่มีความรู้ ความสามารถ แต่อยาก ได้ยศตำแหน่งเข้ามาบริหารหรือไม่

ว.วชิรเมธีกล่าวด้วยว่า การมีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งยังไม่พอสำหรับความเป็นประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยต้องสัมพันธ์กับประชา ชนที่มีคุณภาพ ประชาธิปไตยจึงจะมีคุณภาพได้ ซึ่งประชาชนจะมีคุณภาพต้องได้รับการศึกษา แต่ปัจจุบันคนไทยยังมีปัญหาด้านการศึกษา

ใช้งาน 110 ปี “ปรีดี” สร้างสันติ

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ กล่าวว่านายปรีดีเป็นผู้ส่งเสริมเสรีภาพ สันติภาพและความเป็นธรรมในสังคมไทย งาน 110 ปีชาตกาลฯ มุ่งหมายให้เกิดการอภิวัฒน์สู่สันติ ทุกประเทศย่อมหนีไม่พ้นกฎแห่งอนิจจัง แต่พวกเราสามารถมาร่วมกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี สังคมไทยวันนี้มีความขัดแย้งแตกแยก คณะกรรมการจัดงานเห็นว่าต้องนำแนวทางภราดรภาพนิยมและแนวทางแห่งสันติ ภาพมาเป็นตัวขับเคลื่อน โดยจะทยอยเริ่มตั้งแต่ วันที่ 11 พ.ค. 52 ไปถึงวันที่ 11 พ.ค. 53

นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผูกพันเป็นพิเศษกับนายปรีดี ที่เป็นผู้ให้กำเนิดและเป็นแบบอย่าง ปีนี้ครบ 75 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย และนายปรีดีเป็นบุคคลสำคัญที่นักศึกษาและเยาวชนรุ่นใหม่ควรได้ศึกษาเรื่อง ราวของท่าน ซึ่งปีหน้าในวันที่ 11 พ.ค. 53 จะครบ 110 ปี ก็จะมีกิจกรรมหลายโครงการที่จะเผยแพร่ชีวิต และบทบาทของนายปรีดีให้กับคนรุ่นหลัง.

No comments:

Post a Comment