Tuesday, April 21, 2009

'เทพไท'ซัด'จาตุรนต์' เบี่ยงประเด็นเอาใจนาย



วันนี้ (21 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ออกมาวิจารณ์ และกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า สิ่งที่นายกฯ ออกมาประกาศนิรโทษกรรม และเปิดทางแก้รัฐธรรมนูญก็เพื่อต้องการนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และเพื่อกลบเกลื่อนเหตุการณ์การควบคุมคนเสื้อแดงนั้น ตนขอชี้แจงว่า การที่นายกฯ ออกมพูดเรื่องนี้เพราะท่านถูกกระแสสังคมกดดัน โดยเฉพาะมีการพูดถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ นายกฯ จึงเห็นว่าควรจะเปิดโอกาส เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อที่จะดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งเป็นทางเปิดกว้างทางการเมือง แต่นายจาตุรนต์กลับพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งนายกฯ ไม่มีเจตนาที่จะไปนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่เคยออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง

ทั้งนี้ นายเทพไท กล่าวเพิ่มว่า ส่วนการสร้างกระแสกลบเกลื่อนการเข้าควบคุมการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับ ในนานาชาติว่า รัฐบาลทำถูกต้องตามหลักกฎหมาย และชื่นชมการทำงานของนายกฯ ว่า ปฏิบัติโดยไม่ใช้ความรุนแรง แต่กลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่ยอมที่จะให้รัฐบาลได้เครดิตในเรื่องนี้ จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะให้รัฐบาลเสียเครดิต โดยการสร้างข่าวบิดเบือน และสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายรัฐบาล ตนคิดว่าความเห็นของนายจาตุรนต์ ถ้ายังเป็นความเห็นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวคิดว่านอกจากนายจาตุรนต์จะแถลงข่าวในทุกสัปดาห์แล้ว ก็น่าจะใช้ช่องทาง ทางการเมืองที่นายกฯ เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองต่างๆ กลับไปคิดถึงประเด็นข้อบกพร่องที่ควรแก้ไข เพื่อที่จะนำมาเสนอแนะต่อรัฐบาล รัฐบาลยินดีที่จะรับฟังปัญหาเพราะคิดว่านายจาตุรนต์เองก็เป็นคนไทย

ส่วน การเปิดประชุมร่วม 2 สภา ในวันที่ 22-23 เม.ย.นี้ เพื่อให้มีการอภิปรายถึงเหตุการณ์จลาจลกลางเมืองเมื่อวันสงกรานต์นั้น นายเทพไท กล่าวอีกว่า มีข่าวว่ามี ส.ว.บางส่วนไม่สบายใจกับการที่รัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภาตามมาตรา 179 ซึ่งก่อนหน้านี้มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้เสนอการเปิดอภิปรายตามมาตรา 161 ขอเรียนว่ารัฐบาลเห็นว่าสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรงจึงอยากรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนคนทั้งประเทศ โดยรับฟังผ่านตัวแทนของประชาชน คือทั้งจาก ส.ส.และ ส.ว. ทั้งนี้ในประวัติศาสตร์การเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อรับฟังความคิดเห็นของ 2 สภา มีน้อยครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญ

No comments:

Post a Comment