Tuesday, April 28, 2009

ครม.เห็นชอบร่างพรฎ.ปิดสมัยประชุม

วอร์รูมปชป.เชื่อ “ทักษิณ” ใช้ยาแรงไม่ได้ผลจึงกลับลำ จวก “ลิ่วล้อ” ทำเป็นกระบวนการ จี้ต้องเปิดเผยตรงไป-ตรงมา อย่าบิดเบือนเพื่อประเด็นการเมือง ขอฟัง“จตุพร"ก่อนให้อกสิทธิ์คุ้มครอง พร้อมเคาะแล้ว8อรหันต์กก.ปรองดองและแก้ไขรธน. เพื่อไทยมีมติเสนอตั้งกมธ.วิสามัญสอบสลายเสื้อแดง ปลัดกห.ระบุเสื้อแดงตกยุคใช้รูปแบบคพท.เคลื่อนไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 28 เม.ย. ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัย ประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ. 2552 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้สำนักงานคณะ กรรมการการเลือกตั้งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 10,600,000 บาท โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2552

วอร์รูมปชป.เชื่อ“ทักษิณ”ใช้ยาแรงไม่ได้ผลจึงกลับลำ

น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่ารัฐบาลโยนความผิดว่าสนับสนุนการใช้ความรุนแรงและแนวทางของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการ ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยสันติวิธี และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนใช้ความรุนแรงเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการ เมือง ตนคิดว่าเรื่องนี้สอดรับกับความพยายามของหลายฝ่ายในการที่จะปฏิเสธความรับ ผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพูด ถึงสันติภาพ หลังการก่อเหตุจลาจลและใช้ความรุนแรง ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผ็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่งจะยุติลงไปนั้น

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการพูดหลังจากการใช้วิธีการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ และคนเสื้อแดงที่เข้าร่วมการชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มีการเตรียมการโดยตัวการที่จะใช้วิธีการสร้างความหวาด กลัวและความรุนแรง เพื่อล้มอำนาจรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง การกลับคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อว่าสังคมจะยังคงมีวิจารณญาณและข้อเท็จจริงของบทบาทพ.ต.ท.ทักษิณก็ พูดชัดเจนในคืนวันที่ 10 เมษายน เวลา 21.00 น. หลังจากที่การชุมนุมได้เคลื่อนตัวไปสู่การปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและการ จราจรในหลายจุดทั่วกทม. ขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็รับทราบว่ามีแนวโน้มการก่อการจลาจลในหลายจุด พ.ต.ท.ทักษิณได้ พูดชัดเจนว่า “เราต้องไม่ยอมแพ้ เพราะผมแพ้ไม่ได้ ถ้าผมแพ้ประชาชนก็แพ้ ผมเป็นคนนำการต่อสู้ ผมมาจากประชาชนมีเสียงมากมาย ถ้าผมยอมวันนี้ แสดงว่าประชาชนไม่มีทางสู้อีกแล้ว”

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนส่วนรวมในประเทศอยากเห็นมากกว่าได้ยิน ในวันนี้คือพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณที่มา จากการตัดสินใจ ที่จะยุติการกระทำที่กระทบต่อภาพลักษณ์ที่ต่างชาติ และนานาชาติในโลกมีต่อสถาบันต่างๆ ในประเทศไทย และมีส่วนในการหนุนให้เกิดความไม่สงบในประเทศ เพราะแนวทางของพรรคและรัฐบาลปัจจุบัน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกกระบวนการ ที่จะสร้างความสมานฉันท์และความสงบเรียบร้อย แต่มีเงื่อนไขว่ากระบวนการนั้นจะไม่สามารถดำเนินการในส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณผลัก ดัน 3 อย่างคือ 1.ยกความผิดอาญา 2.มีส่วนร่วมกับกระบวนการที่ล้มล้างหรือลดความน่าเชื่อถือสถาบันหลักของ ประเทศ 3.กระบวนการที่ใช้วิธีการของการสร้างความรุนแรงทุกรูปแบบ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงคำกล่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.ว่าจะใช้กองกำลังติดอาวุธหรือแนวทางของผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองของ บุคคลบางคนที่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องการสูญเสียจากเหตุการณ์ชุมนุม ทั้งการสร้างหลักฐานเท็จหรือเคลื่อนไหวที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองจากความ สูญเสียของประชาชน เช่น กรณีพลทหารอภินพ เครือสุข ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา มีความพยายามเข้าแทรกแซงกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและไม่ได้ทำโดยลำพัง มีการสร้างกระแสข่าวโดยต่อเนื่อง

พรรคมองว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองมากกว่าเจตนา จริงในการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน เพราะในอดีตกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวในขณะนี้ ไม่เคยออกมารักษาความถูกต้อง ต่อกรณีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากกรณีนายสมชาย นีละไพจิตร หรือชิปปิ้งหมู น้องโบว์และฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ เพราะฉะนั้น ณ วันนี้ตนก็คิดว่าสิ่งที่สำคัญคือ ข้อมูลที่แท้จริงสมควรที่จะได้รับการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรบิดเบือนเพื่อวัตถุประสงค์การเมือง

ปชป.ขอฟัง“จตุพร"ก่อนให้อกสิทธิ์คุ้มครอง

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคได้หารือถึงญัตติที่จะนำเข้าสู่การประชุมสภา ในวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ คือ การพิจารณาขออนุญาตจากสภาใน การดำเนินคดีกับนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยพรรคประชาธิปัตย์จะค่อยดูท่าทีของนายจตุพรไปก่อน

ปชป.เคาะแล้ว8อรหันต์กก.ปรองดองและแก้ไขรธน.

นาย ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ตัวบุคคลจำนวน 8 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นผู้คัดเลือกจากผู้เสนอตัว ประกอบไปด้วย นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 8 นายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.กทม.นายนิพนธ์ วิศิษฎ์ยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 7 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช นางผุสดี ตามไท ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก

ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิอีกสองคน ที่ประชุมได้หารือเพื่อให้กรอบเพียงสถาบันต่างๆ เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็น นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และนายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ทั้งนี้เนื่องจากต้องนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งประสานไปยังพรรคฝ่ายค้านด้วย เพื่อไม่ให้ตัวบุคคลซ้ำซ้อนกัน คาดว่ารายชื่อทั้งหมดจะส่งถึงมือนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้ภายในวันที่ 29 เมษายน

ส่วนนพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคเห็นด้วย กับการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เพื่อความปรองดองและสมานฉันท์และแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวต้องคำนึงถึง 2 หลักการ คือ การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างหลากหลาย โดยมีความเป็นอิสระและเป็นกลาง และต้องมีอำนาจหน้าที่ในการแก้ปัญหาเชิงระบบ ไม่ได้ดูถึงปัญหาตัวบุคคล เพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ ซึ่งภาระกิจดังกล่าวจะต้องมีการดำเนินการใน 4 เรื่องคือ

1.การเสริมสร้างและการรักษาความสงบในการสร้างความ ปรองดองและสมานฉันท์ 2.รับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน 3.พิจารณาระบบกฎหมายทั้งหมด โดยต้องเชื่อมโยงถึงความถูกต้องคงความเป็นนิติรัฐ รักษานิติธรรม และ 4.พิจารณาสาระการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งในระหว่างการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ สภาจะต้องชะลอการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเพื่อให้คณะกรรมการได้ศึกษาภาพใหญ่ของสังคมได้

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ติดใจขอบข่ายอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าว แต่ติดใจเรื่องขององค์ประกอบของคณะกรรมการที่ประกอบด้วย ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 30 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน ที่ส่วนใหญ่มาจากภาคการเมือง แต่มีภาคประชาชนน้อยมาก รวมถึงภาคของผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากภาคการเมือง จึงอาจไม่มีความเป็นอิสระจากการเมือง ทั้งนี้ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีตัวแทนจากภาคประชาชนเพิ่มขึ้น

เพื่อไทยมีมติเสนอตั้งกมธ.วิสามัญสอบสลายเสื้อแดง

เมื่อเวลา 18.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอสภาเพื่อ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการสลายการชุมนุมของรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 เม.ย. และมีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อยื่นตรวจสอบการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 เม.ย. โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นประธานคณะทำงานเพื่อดำเนินการ เพื่อยื่นเรื่องต่อองค์การสหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ปลัดกห.ระบุเสื้อแดงตกยุคใช้รูปแบบคพท.เคลื่อนไหว

พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีแนวคิดจะใช้ความ เคลื่อนไหวแบบคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศ (คพท.) ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าคงทำไม่ได้ เพราะบ้านเมืองเปลี่ยนยุค เปลี่ยนสมัยแล้ว อีกทั้งเชื่อว่าแนวคิดดังกล่าวคนส่วนใหญ่ไม่มีใครยอมรับ และยอมรับไม่ได้ บ้านเมืองเราเดินมาไกลแล้ว ใครที่มีแนวคิดดังกล่าว ก็คงเป็นคนที่ตกยุค

No comments:

Post a Comment