Thursday, April 23, 2009

สภาวุ่นส.ส.โชว์คลิปตัดต่อการ์ดนปช.ดับ

สภาวุ่น“วรวัจน์” โชว์คลิปตัดต่อการ์ดนปช.ดับ โยงฝีมือทหาร ด้าน“สุเทพ”พร้อมตั้งกก.สอบพิสูจน์ข้อสงสัยทุกประเด็น ไม่ต้องการบิดเบือน ย้ำปฏิบัติการทหารไร้คนตายแม้แต่ศพเดียว

(23เม.ย.) เวลา 12.20 น. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทยลุกอภิปรายได้ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ในการนำภาพผู้เสียชีวิต ภาพเหตุการณ์ และญาติผู้ชีวิต มาชี้แจงในสภา โดยยืนยันและรับรองด้วยเกียรติของสมาชิกรัฐสภา และตำแหน่งส.ส.เพราะตนได้ไปพบด้วยตนเอง ดังนั้นรัฐสภาไม่ ควรปิดกั้นการทำหน้าที่ตัวแทนของปวงชนชาวไทยได้ ทั้งนี้หากประธานไม่ให้พูดในสภาจะลงไปแถลงข้างล่าง แต่ปรากฏว่า นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ไม่อนุญาต โดยยืนยันว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาได้วินิจฉัยแล้ว

แต่นายวรวัจน์ พยายามที่ขอให้เปิดเพราะเป็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ถ้าสภาถูกปิดกั้น รัฐบาลจะเสียหายอย่างยิ่ง ทำไมต้องปิดกั้นในการให้ข้อมูล ตนขอเอาเกียรติของสมาชิกเป็นประกัน ท่านนายกฯจะเปิดกว้างให้หรือไม่

ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้ชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีปัญหา หากรัฐสภาได้ มีการตรวจสอบก็ไม่มีปัญหา อยู่ที่ประธานจะตัดสินใจ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลว่าจะให้ออกหรือไม่ให้ออก มาถึงช่วงนี้ นายวรวัจน์ ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีภาพรุนแรง เพียงต้องการยืนยันว่ามีตัวตนจริงๆจะเอาศักดิ์ศรีมาเป็นสมาชิกรัฐสภา แต่นายประสพสุข ได้แนะนำให้นายวรวัจน์ อภิปรายไปเลย ไม่อนุญาตให้นำภาพแต่นายวรวัจน์ ยืนยันที่จะขอเปิดนิดเดียว ขอบอกว่าเสียใจ ที่บอกว่าจะรับฟังความคิดเห็น และไม่ปิดกั้น อย่างไรตนเชื่อสื่อไม่กล้าออก เพราะยังมี พ.ร.ก.อยู่จึงออกไม่ได้เพราะจะเป็นการกระตุ้นยุยง


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในส่วนรัฐบาลขอให้เป็นเรื่องของรัฐสภา เพราะมีการตกลงคณะกรรมการประสานงาน โดยให้ประธานรัฐสภาและ รองประธานฯ เป็นผู้วินิจฉัย ก็อยากให้นำเรื่องนี้ไปทำความตกลงกับประธานก่อน แล้วค่อยมาอภิปรายไป ขณะที่ นายวรวัจน์ได้พยายามสอบถามว่า ในสิ่งที่ตนจะอภิปราย สื่อจะนำไปออกได้หรือไม่ เพราะเกรงจะขัดต่อ พ.ร.ก.และนายกรัฐมนตรีจะอนุญาตให้เปิดหรือไม่

ขณะที่ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ได้แย้งว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วจะมีสภาไปทำไม อย่าปิดสภาหนีก็แล้วกัน ในที่สุด นายประสพสุข ได้ให้การพิจารณาดำเนินต่อไปแต่ไม่อนุญาตให้เปิดภาพ โดยนายวรวัจน์ ได้อภิปรายต่อโดยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โดยเป็นการ์ด นปช.ตัวใหญ่ มีการจับโยนลงน้ำ และแพทย์ได้ระบุว่าขาดอากาศหายใจ ในระหว่างนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เข้ามาทำหน้าที่ประธาน แทนนายประสพสุข พร้อมได้วินิจฉัยอนุมัติให้นำภาพที่นายวรวัจน์ เตรียมมาอภิปรายประกอบการอภิปรายในสภาจำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย ภาพเหตุการณ์รุนแรง ทหารทำร้ายประชาชน ภาพทหารนั่งดูกลุ่มผู้ชุมนุมถูกมัดมือ ซึ่งอนุญาตให้เปิดได้ แต่คำสัมภาษณ์ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นการ์ด ไม่อนุญาตให้เปิดเพราะไม่มีความชัดเจนจึงไม่อนุญาตให้นำมาประกอบ


จากนั้น นายวรวัจน์ พยายามที่นำรูปภาพขึ้นมาชูกลางที่ประชุม พร้อมทั้งระบุว่า รูปแค่นี้ทำไมต้องกลัวด้วยพร้อมทั้งยื่นภาพให้เพื่อนสมาชิกยื่นให้สื่อมวลชน ดู โดยในภาพ เป็นภาพชายที่รอดชีวิตจากการสลายการชุมนุม

หลังจากที่มีการถกเถียงกันเป็นเวลานาน นายวรวจน์ ได้อภิปรายต่อ พร้อมทั้งเปิดคลิปวีดีโอที่มีการตัดต่อภาพเหตุการณ์ โดยเริ่มจากการรายงานข่าวจากช่อง 7 กรณีพบผู้เสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 1 รายที่ถูกมัดแล้วโยนทิ้งแม่น้ำ จากนั้นเป็นภาพเจ้าหน้าที่ทหารใช้กำลังสลายการชุมนุมในช่วงเช้ามืด ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นสถานที่ใด และเป็นภาพทหารใช้เชือกมัดชายร่างท้วมคนหนึ่ง พร้อมกับเข้ามาเตะและใช้ไม้หวดหลายครั้ง ก่อนที่จะตัดมาเป็นภาพชายไม่สวมเสื้อถูกมัดมือไขว้หลัง และจบลงด้วยภาพนิ่งของชายที่เสียชีวิตจากรายงานข่าวของช่อง 7 มาเปรียบเทียบกับชายที่ถูกทหารจับมือไขว้หลังและภาพชายไม่สวมเสื้อถูกจับมือ มัดไขว้หลังนอนคว่ำหน้าบนท้องถนน ว่าเป็นคนคนเดียวกัน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฉายคลิปวีดีโอเสร็จ นายวรวัจน์ ได้นำรูปชาย 1 คน โดยอ้างว่าบุคคลดังกล่าวได้อยู่ในเหตุการณ์อยู่บนรถยีเอ็มซี ที่ขนศพผู้เสียชีวิตประมาณ 10 คนที่เตรียมไปจังหวัดลพบุรี และได้กระโดดหนีออกมา จึงได้มาให้ข้อมูลกับตน พร้อมทั้งถามว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังที่สื่อมวลชนและกรรมการสิทธิ์จะ เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งขอเปิดคลิปวีอีโอ

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกจุด ได้เริ่มเมื่อเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 13 เม.ย.ซึ่งได้เข้าดำเนินการตลอดทั้งวันและเลิกปฏิบัติการในเวลา 17.00 น.ส่วนกรณีที่มีการะบุผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ภรรยาผู้ตายก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ เราเป็นสมาชิกด้วยกัน ควรจะมาพูดบนพื้นฐานของความจริง ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานวันเวลาชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ ตนพร้อมที่จะให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบในทุกกรณี ในการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ หากมีอะไรสงสัยก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน เรื่องนี้ไม่มีใครบิดเบือนได้ รวมทั้งเรียกร้องให้กรรมาธิการทั้งสองสภาได้ตรวจสอบอีกทางเพื่อนำมาเปรียบ เทียบ ส่วนการนำภาพต่างๆ มาชี้แจงก็ไม่อยากให้เกิดการโต้แย้ง เพราะประชาชนจะเข้าใจผิด

จากนั้นนายวรวัจน์ ได้นำภาพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์มาโชว์ในห้องประชุม ซึ่งเป็นภาพชายถูกมัดมือไขว้หลังด้วยเชือกที่ใช้ในราชการทหาร โดยยืนยันว่าจนถึงวันนี้มีการทำลายหลักฐานหมดแล้ว มีการเผาเชือกทำลายหลักฐาน จึงไม่สามารถหาหลักฐานได้ แต่หากอยากรู้ว่ามีคนตายจริงไม่ตนพร้อมที่จะเปิดคลิปวีดีโอในการชี้แจง อยากเรียกร้องให้รัฐบาลอย่างปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร เพราะรัฐบาลพูดมาตลอดว่าไม่มีคนตาย

มาถึงตรงนี้ นายสุเทพ ลูกขึ้นชี้แจงว่า พร้อมที่จะให้ความร่วมมือพิสูจน์ความเป็นจริงทุกประการด้วยการตั้งคณะ กรรมการขึ้นมาตรวจสอบ รัฐบาลพร้อมที่จะให้ความกระจ่าง ต้องการให้ตรวจสอบเรื่องไหน รัฐบาลก็พร้อมที่จะดำเนินการ ตรวจสอบให้เกิดความกระจ่าง ทุกเรื่อง ทุกประเด็น ยืนยันว่าไม่มีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว

ขณะที่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ใครจะกล้าเอาหลักฐานไปให้รัฐบาล เพราะไม่มีความจริงใจ แค่เปิดคลิปก็ไม่ได้แล้ว ต่อมา อภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเปิดคลิปหรือไม่เปิดเป็นข้อตกลงของสภา แต่มีสองประเด็นหลักที่ต้องการชี้แจงคือการตายของประชานที่ถูกกล่าวหาว่าตน ไม่มีความเอาใจใส่ ไม่เป็นความจริง เพราะครั้งแรกที่มีการพบศพที่แม่น้ำเจ้าพระยาตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไป ตรวจสอบและรายงานเข้ามา ซึ่งจากการรายงานพบว่าในคืนวันที่ 13 เม.ย.ผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ เป็นข้อมูลที่รายงานมา จึงไม่เชื่อว่าเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะเลยจากวันที่ 13 ไปแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปฏิบัติการสลายการชุมนุม หากมีข้อมูลพบการเสียชีวิต ก็หาข้อมูลเพิ่มเติมมาร้องที่รัฐบาลได้ ส่วนภาพทางการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ที่ดินแดง ยืนยันว่ามีใครเห็นภาพอย่างนั้นแล้วก็ไม่สบายใจ เมื่อเสนอภาพเหล่านี้มาก็รับไปและเสนอ ผบ.ทบ.ว่าเห็นภาพหรือไม่ อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการดำเนินการสอบสวนต่อไป หากไม่มั่นใจในฝ่ายบริหาร องค์กรที่เป็นกลางก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ หากมีการใช้กำลังก็ต้องสอบเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาต่อไป

นายสุเทพ กล่าวว่า ที่บอกว่าคนตายคนเป็นการ์ด นปช.แต่จากบันทึกคำให้การของภรรยาเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมาที่ สน.จตุจักร ภรรยาผู้ตายยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นการ์ด หรือมาร่วมชุมนุมกับคนทั้งเสื้อแดงและเหลืองเลย และในบ้านยังไม่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นคนเสื้อเหลืองหรือแดง

ขณะที่นายวรวัจน์ ได้ขึ้นสวนทันทีพร้อมกับชูภาพว่า นายสุเทพ พูดแค่ครึ่งเดียวพูดไม่หมด จากนั้นได้ชูภาพผู้เสียชีวิตซึ่งใส่เสื้อแดงร่วมกับการชุมนุมในวันที่ 12 เม.ย.ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ และกลางวันวันที่ 13 เม.ย.ก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่คืนวันที่ 13 เม.ย.ไม่มีใครพูดว่ามีชีวิตหรือไม่

จากนั้น นายวิชาญ มีนชัยอนันต์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ขอหารือประธานเพื่อต้องการที่จะเปิดคลิปวิดีโอเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งยังเหลืออยู่ม้วนเดียว จึงอยากให้ประธานได้ถามสมาชิกว่าต้องการดูหรือไม่

ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตลอดฟังการอภิปรายที่ผ่านฟังแล้ว คิดว่านายสุเทพเป็นพ่อพระเกินไปและเป็นมือปราบโจรไม่ได้ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่ายค้านพยายามหากินกับศพ ทำไมรัฐบาลไม่ชี้แจงผลตรวจสอบว่าผู้ตายได้ทำการตอกบัตร การปฏิบติหน้าที่ รปภ.ในช่วง 7 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม ขณะที่ฝ่ายค้านอ้างว่าเป็นเวลาที่ไปขึ้นเวทีเป็นการ์ดให้ นปช.และข้อเท็จจริง มีการพบศพผู้ตายในเวลา 7 โมงเช้าของวันที่ 15 เม.ย.ทั้งๆ เหตุการณ์ได้จบลงแล้ว และภาพที่ผู้ตายมีเชือกใช้ในราชการทหารมัดหลังก็เป็นเพียงเชือกพลาสติกสีฟ้า อีกทั้งคลิปวิดีโอที่มีภาพทหารรุมทำร้ายชายใส่เสื้อดำก็เป็น 9 แกนนนำนปช.ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในการปราบจลาจลที่ต้องมีการใช้กำลัง

อย่างไรก็ตามไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เชื่อว่าไม่มีคนตาย ผิดกับกรณีการยิงประชาชนที่กรือเซะ ยังไม่เห็นสมาชิกคนไหนของเปิดดูคลิป เสมือนว่าผู้เสนอมาอยากจะหากินกับศพ ในการพูดจับแพะชนแกะ นำข่าวรือมาพูด ขอร้องว่า หยุดหากินกับศพคนตายได้แล้ว หากผู้ตายเป็นฝีมือของทหารจริงต้องมีหลายแผล แต่ที่ศพมีบาดแผลเดียวที่ศีรษะ อย่าเอามาเป็นประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่ดูข้อเท็จจริง และพยายามทำให้รัฐบาลมือเปื้อนเลือด การกระทำของกลุ่มเสื้อแดงทำให้คนตกงานเพิ่มถึง 2 ล้านคน รัฐบาลไม่มีเงินจะไปอุ้ม การที่อ้างว่าคนส่วนใหญ่ต้องเสียสละเพื่อระบอบประชาธิปไตย อยากถามว่าประชาธิปไตยแบบไหนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายแบบนี้ อย่าปล่อยให้ความวุ่นวายต้องปล่อยให้คนทั้งประเทศมาตกนรก

นายวรวัจน์ กล่าวว่า ยืนยัน ตนไม่ได้หากินกับศพ และคนตายเป็นคนจังหวัดแพร่ ที่ตนเป็นส.ส.อยู่ และคำให้การของภรรยาขัดแย้งกันกับข้อมูลของรัฐบาล เพราะภรรยาผู้ตายถูกข่มขู่ แต่ญาติพี่น้องของผู้ตายยืนยันว่าไปร่วมชุมนุมจริงและมีภาพประกอบอย่าง ชัดเจน ยืนยันว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเปิดคลิปวิดีโออีกครั้ง จะได้เห็นความจริงและพฤติกรรมของรัฐบาล หากไม่มีความสามารถก็ลาออกไป พวกตนมีความสามารถที่จะทำแทนได้

No comments:

Post a Comment