Wednesday, April 22, 2009

"สัก"ชี้ตั้งอัยการพิเศษฟันนักการเมือง

ที่โรงแรมโซฟิเทล เซนทารา แกรนด์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายสัก กอแสงเรือง อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวในงานเสวน“วันนี้ของ คตส. กับก้าวที่สองของการพัฒนาธรรมาภิบาล” ว่า ระหว่างทำหน้าที่ คตส. ถูกฟ้องร้องคดีอาญาและคดีแพ่งอย่างละ 7-10 คดี นอกจากนั้นยังมีคดีปกครองอีก 21-22 คดี หลังพ้นจากตำแหน่งยังถูกฟ้องอีกเพราะไม่ยอมถอนอายัดเงิน 7.6 หมื่นล้าน แม้บางคดีจะมีการฟ้องร้องและเรียกเงินค่าเสียหายรวมกันนับแสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคดีใด ถึงที่สุด หากต้องจ่ายเงินก็ไม่รู้ว่าจะเอาที่ไหนมาจ่าย

“ผมเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการตั้งอัยการพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่ในการ พิจารณาคดีอาญาของนักการเมือง ที่ผ่านมาอัยการสูงสุดทำงานสะดุด ทำให้เสียเวลาถึง 3-4 เดือน ไม่เช่นนั้นคดีที่ คตส. รับผิดชอบก็จบไปนานแล้ว ที่สำคัญในกรณีซีทีเอ็กซ์อัยการสูงสุดบางท่านยังเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดการท่า อากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) จึงเป็นปัญหาในเรื่องการฟ้องร้องคดี ดังนั้นสมควรหรือไม่ที่ จะให้อัยการสูงสุดเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจ” นายสัก กล่าว

ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ประเด็นใหญ่ที่ทำให้เกิดการจลาจลในช่วงที่ผ่านมาเพราะการทำงานของ คตส. ตนยกย่องการทำงานของ คตส. และดูด้วยความชื่นชม เมื่อรับคดีต่อจาก คตส. เราเครียดมากเพราะเป็นคดีที่อยู่ในความคาดหวังของสังคม ซึ่งปัญหาและอุปสรรคในการทำงานคือเราไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือน คตส. ไม่สามารถขอดูเส้นทางการเงินหรือบางเรื่องได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการคือ การดูแลผู้ปฏิบัติงานเรื่องการปราบปรามเรื่องทุจริต รวมถึงผู้ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ขณะนี้มีข้อตกลงระหว่างประเทศในเรื่องความคุ้มครองหน่วยงานอิสระที่ดูแล เรื่องการปราบปรามการทุจริต แต่ประเทศไทยยังไม่มีการลงนาม หากมีการลงนามองค์การสหประชาชาติ และประเทศภาคี จะเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลบุคคลากรที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการทุจริต.

No comments:

Post a Comment